กัล กาโดท (Gal Gadot) ปรากฏตัวออกมาในฐานะไดอาน่า ปริ้นซ์ ครั้งแรกใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) แต่สำหรับ Wonder Woman (2017) มันเป็นครั้งแรกที่เธอจะโดนจับจ้องพร้อมกับคำถามในการพิพากษาตัวเธออย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีผู้หญิงเป็นตัวขับเคลื่อนมันจะได้รับความนิยมจริง ๆ หรอ? หรือ กัล กาโดทจะสามารถแบกรับหนังยักษ์ใหญ่ประจำซัมเมอร์ในการมารับบทนำเป็นครั้งแรกของเธอได้จริง ๆ ใช่มั้ย?
จากความสำเร็จของ Wonder Woman มันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอทำได้ แถมเธอยังทำได้ดีเกินคาดอีกด้วย เชื่อได้เลยว่านี่มันจะเป็นช่วงเวลาที่กาโดทจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต เมื่อมองย้อนกลับไปตอนที่เธอได้อ่านกระแสตอบรับจากหนัง Wonder Woman ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ขณะที่เธออยู่บ้านกับลูกสาวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เธอเผยว่า “เรามักจะรู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นเรื่องที่พิเศษ แต่เราไม่ได้คาดหวังเลยว่ามันจะได้กระแสตอบรับดีขนาดนี้ ฉันเคยรู้สึกกังวลในตอนแรกเพราะมันเป็นประสบการณ์การถ่ายหนังครั้งแรกของฉัน ซึ่งนั่นมันเป็นทุกอย่างสำหรับฉัน ฉันรู้สึกเหมือนสาวน้อยที่กำลังมองไปที่ยอดเขาคิลิมันจาโร แล้วก็คิดว่าฉันจะปีนขึ้นไปบนยอดนั้นยังไงดี?”
กาโดทถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเอนเตอร์เทนเนอร์แห่งปีโดย Entertainment Weekly ซึ่งเธอก็ได้เล่าถึงย่างก้าวแห่งความสำเร็จนี้ไว้ว่า “ตอนนั้นมันเป็นช่วงเย็นของวันพฤหัสฯ แล้วฉันก็รู้มาว่าพวกเขาจะปิดบังรีวิวเอาไว้จนกระทั่งเวลา 3 ทุ่ม มันเป็นครั้งแรกของฉันเลยที่ต้องก้าวผ่านอะไรแบบนั้น โดยปกติแล้วฉันไม่ได้เป็นคนที่จะมานั่งคิดอะไรวนไปวนมาตอนที่ทางสตูดิโอซ่อนมันเอาไว้หรอกนะ ฉะนั้นฉันก็เลยพาลูกสาววัย 6 ขวบเข้านอน และฉันก็บอกเธอว่า ‘ลูกต้องนอนแล้วนะ แม่ต้องทำงานบางอย่างในคืนนี้’ แน่นอนว่าคืนนั้นเธอเองก็ตื่นเต้นมาก ๆ เลยล่ะ ฉันเลยบอกไปว่า ‘โอเค แม่จะไปเอาคอมพิวเตอร์มา แล้วมานั่งข้าง ๆ ลูกจนลูกหลับ’ ดังนั้นฉันก็เลยไปเอาคอมพิวเตอร์มา แล้วก็เริ่มอ่านรีวิวทั้งหมด ฉันตื่นเต้นมาก ๆ ฉันโทรไปหาผู้กำกับแพ็ตตี้ เจนกินส์ แล้วช่วงเวลาที่ฉันโทรไปหาแพ็ตตี้เธอก็รับโทรศัทพ์ ซึ่งเธอไม่เคยเปิดเสียงมันเลย เธอรับมันในทันที เธอคือทุกอย่าง ‘เกิดอะไรขึ้น? ฉันนั่งสมาธิไป 20 นาที แล้วก็ยังไม่ได้อ่านอะไรเลย จริง ๆ แล้วฉันกำลังรอคุณโทรมา’ แล้วฉันก็กรีดร้องออกไป ‘อ๊ากกกกก!’ เธอถามฉันว่า ‘มันดีใช่มั้ย? มันดีใช่มั้ย?’ แล้วฉันก็บอกเธอไปว่า ‘มันอัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ! ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งนี้มันจะเกิดขึ้นกับเราในตอนนี้!’
ลูกสาวของฉันที่ตอนนี้อายุ 6 ขวบ ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรดักซ์ชั่นนี้ด้วย ตอนที่ฉันไปทำงานนานหลายชั่วโมง ลูกก็มาที่กองถ่ายด้วย แล้วก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งโรงละครนี้ ลูกสาวของฉันเธอตื่นเต้นมาก ๆ เลยล่ะ เธอถามฉันว่า ‘เป็นยังไงบ้างม่าม๊า?’ ฉันเลยบอกเธอไปว่า ‘ผู้ชมชอบหนังเรื่องนี้ ดูสิ ถ้าลูกทำงานหนักมากพอ แล้วลูกก็มีความตั้งใจที่ดี บางครั้งในชีวิตผู้ชมก็จะเห็นคุณค่าของมัน’ จากนั้นเธอก็กระโดดมาหาฉันพร้อมน้ำตาคลอ แล้วพูดว่า ‘หนูภูมิใจในตัวม่ามี๊!’ นั่นเป็นช่วงเวลาที่ฉันจะไม่มีวันลืมเลยทั้งในฐานะของแม่ แล้วก็ในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่พิเศษมาก ๆ”
ที่มา: Ew.com/