หลังจากมีการประกาศออกมาว่าแซ็ค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ได้ขึ้นชื่อเป็นผู้กำกับ Justice League เพียงคนเดียว ในขณะที่จอส วีดอน (Joss Whedon) ได้เครดิตในฐานะผู้เขียนบทร่วมกับคริส เทอร์ริโอ (Chris Terrio) นิตยสาร SFX ก็มีโอกาสได้สัมภาษณ์เบน แอฟเฟล็ค (Ben Affleck) เกี่ยวกับสิ่งที่วีดอนนำเข้ามาสู่ Justice League ซึ่งแอฟเฟล็คก็ชี้แจงว่า...
“จอสเขาก็แค่นำสิ่งดี ๆ เข้ามา สิ่งที่พวกผู้กำกับควรจะนำเข้ามาสู่หนังเรื่องนี้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจดี เซ้นท์ของสิ่งที่ใช้ในเรื่องราวและสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในเรื่องราว สัญชาตญาณของการมองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง แล้วก็การค้นหาความเป็นมนุษย์ในตัวละคนต่าง ๆ รวมไปถึงความเป็นมนุษย์ที่มีความขัดแย้ง จากนั้นก็ทำให้มันเข้าถึงได้ง่ายแล้วก็ตรงประเด็น ผมคิดว่านั่นคือสิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ดีเลยนะกับ Avengers จากใจเลย เขาทำให้โทนของมันชัดเจนมาก ๆ และมันก็รู้สึกเหมือนหนังอีกหลาย ๆ เรื่องหลังจากนั้นมันจะถูกจัดเข้ามาอยู่ในโทนที่เขาสร้างขึ้นมาด้วย”
นอกจากนี้แอฟเฟล็คยังพูดถึงงานยากของวีดอนสำหรับการที่จะพาตัวละครทั้งหมดก้าวไปในหนทางแห่งความสำเร็จด้วยกันใน Justice League อีกด้วย แม้วีดอนจะไม่ได้เครดิตร่วมกำกับ แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าการก้าวเข้ามาของเขาก็เพื่อที่จะปรับโฉมหนังเรื่องนี้ซะใหม่ จากแนวทางที่มันยังไม่ชัดเจนภายใต้การกำกับของสไนเดอร์ อย่างในตัวอย่างล่าสุดมันก็เริ่มโชว์ให้เห็นโทนใหม่ของหนัง ในขณะที่ก็ยังพยายามรักษาอารมณ์ของหนังดีซีเอาไว้ด้วย
“มันเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวแบบมีเล่ห์เหลี่ยม ที่ซึ่งคุณมีผู้คนทั้งหมดนี้ คนที่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างที่มันอัศจรรย์ได้ นั่นมันเป็นความเหลวไหลทั้งเพที่ฉาบไว้บนใบหน้าของมัน และยังอีกนะ นักเล่าเรื่องที่ดีอย่างจอสเขาได้พาเราเข้าไป เพื่อทำให้เราได้หาเอกลักษณ์พร้อมกับพวกเขา ทำให้พวกเขาดูเหมือนมีตัวตนที่แท้จริง แล้วก็ทำให้มันมีความน่าสนใจ หลาย ๆ คนคงรู้เรื่องในการ์ตูนดีแล้ว หลาย ๆ คนมีความรู้พื้นฐานพวกนั้นแล้ว แต่สิ่งที่จอสมีนั่นคือพรสวรรค์” แอฟเฟล็ค กล่าว
Justice League พร้อมฉาย 16 พฤศจิกายนนี้