ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

20 สุดยอดหนังไซไฟ-สยองขวัญในรอบ 25 ปี ลงคะแนนโดยผู้ใช้ IMDb

16 ส.ค. 2560 12:15 น. | เปิดอ่าน 1721 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

ตั้งแต่ปี1990 ถึง2015 ฮอลลีวูดได้สร้างภาพยนตร์แนวไซไฟกึ่งสยองขวัญมากมายขึ้นมาหลอนผู้ชม และต่อไปนี้คือภาพยนตร์แนวดังกล่าว 25 อันดับ ที่ได้รับการโหวตจากผู้ใช้งานเว็บไซต์ IMDb จากทั่วโลก และแน่นอน! เพื่อความมั่นใจในโพลล์ เราเลยเลือกแต่หนังที่ได้รับเรตติ้งสูงสุด โดยได้รับโหวตจากผู้ชมมากกว่า 1 แสนรายเท่านั้น 

ปล. เต็มไปด้วยแวมไพร์ ซอมปี้ และอวกาศ ถ้าไม่เห็นด้วยกับโพลนี้ ขอให้ทุกท่านเข้าไปยัง IMDb และจัดการโหวตหนังเรื่องโปรดเลยจ้า

 


20. Alien³ (1992) และ Prometheus (2012) – Ratings: 6.4 และ 7.0
เอเลี่ยนภาคนี้อาจจะได้เรตต่ำไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับเมื่อปี 1979 (ได้เรตติ้งไป 8.5) แต่ดูเหมือนตัวผู้กำกับเองก็เริ่มเห็นหนทางเดินใหม่ๆ และทำให้ภาคต่ออย่าง โพรมีธีอุส นั้นออกมาเป็นแนวปรัชญาเล็กๆ กระชากคะแนนโหวตขึ้นมาได้บ้าง แม้จะยังไม่เทียบกับฉบับออริจินัลก็ตามที


นี่แหละ ความน่ากลัวของภาคต่อ! ถ้าอยากเห็นว่ามันน่ากลัวยังไงก็ต้องลองดูเรื่องอื่นๆที่มีภาคต่อในลิสต์ดูสิ!

 


19. Daybreakers (2009) – Rating: 6.5
หนังสยองแนวแวมไพร์มักแสดงภาพของสัตว์ประหลาดสุดสยอง แต่ในเรื่องนี้ พวกเขากลับแทบจะคล้ายมนุษย์ เพียงแต่แวมไพร์กลายเป็นประชากรหลักของโลก และเหลือมนุษย์อยู่เพียง 5เปอร์เซ็นต์ เลือดจึงกลายเป็นสกุลเงินหลัก
และเมื่อเลือดกำลังจะหมดไป ความวุ่นวายก็ใกล้จะตามมา

นี่เป็นหนึ่งในหนังที่ชวนให้คิดตามที่สุดเรื่องหนึ่ง ด้วยข้อความที่ง่ายต่อการนำมาเทียบกับโลกปัจจุบัน ดีขนาดนี้แล้วทำไมเรตถึงต่ำนักน่ะเหรอ? เพราะยังมีแฟนๆ ที่มองว่าเรื่องนี้ยังมีช่องว่างที่ไม่ชวนให้เชื่อถืออยู่น่ะสิ!

 

18. 30 Days of Night (2007) 30 ราตรี ผีแหกนรก– Rating: 6.6
หนังแวมไพร์ที่ยากจะคาดเดา ลองคิดถึงค่ำคืนอันยาวนาน ไร้ซึ่งเวลากลางวัน และทั้งเมืองเต็มไปด้วยแวมไพร์กระหายเลือด เมื่ออลาสก้ากลายเป็นเมืองสำหรับวันหยุดยาวช่วงฤดูหนาวของเหล่าแวมไพร์ พบกับหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ชวนจิตหลุดที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีมา!
 

 


17. Event Horizon (1997) – Rating: 6.7
หนังสยองขวัญอวกาศนั้นพาให้เราพบกับความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุด เพราะมันอาจมี  อะไรก็ได้ อยู่ข้างนอก เช่นเดียวกับวิธีตายนับล้าน หรือแม้กระทั่งการถูกทิ้งไว้ในสถานที่ทึบๆทึมๆ 

เรื่องราวของหนังเล่าถึงปี 2047เมื่อนักบินอวกาศถูกส่งไปเพื่อค้นหาและสืบสวนกรณียานอวกาศที่หายไปเมื่อเจ็ดปีก่อน และกลับมาอีกครั้งอย่างเป็นปริศนา กำกับโดย พอล แอนเดอร์สัน ผู้กำกับ Resident Evil และ AVP: Alien vs Predator นั่นเอง

 


16. Resident Evil (2002) – Rating: 6.7
พูดถึงแฟรนไชส์ในวงการบันเทิงแล้ว ก็คงจะไม่มีใครลืมชื่อ Resident Evil ได้ ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากนวนิยาย คอมมิค และรวมไปถึงวีดีโอเกม เพิ่งจะฉลองครบ 20 ปี วีดีโอเกมไปเมื่อปีก่อน นับตั้งแต่เปิดตัวในเพลย์สเตชั่นเมื่อปี 1996 เป็นต้นมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดาราตัวเป้งมาแสดง โดยในภาคนี้จะเล่าถึง อลิซ หญิงสาวผู้ทำงานในหน่วยรบพิเศษเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด หลังจากอุบัติเหตุในห้องแล็บนั้น แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคแยกย่อยออกมาอีกหลายตอน แม้จะไม่ดีเท่าภาคนี้ก็ตาม แต่ก็นับได้ว่าคะแนนไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่นัก

 

15. Pandorum (2009) – Rating: 6.8
ปฎิเสธไม่ได้ว่าลิสต์นี้เป็นเหมือนเกมการแข่งขันเล็กๆระหว่างแฟนหนัง “ผู้ติดเชื้อ”/ซอมบี้/แวมไพร์ และความสยองจากอวกาศ Pandorum พาพวกเราไปเยือนในอวกาศอันเวิ้งว้าง  เล่าถึงเรื่องราวของชายสองคนที่ตื่นขึ้นมาโดยไร้ความทรงจำ และเหมือนว่าจะถูกทิ้งเอาไว้ในยานอวกาศร้าง ก่อนจะพบว่า แท้จริงแล้วพวกเขาไม่ได้อยู่กันตามลำพัง! 
แฟนๆ หนังแนวนี้มีการเปรียบเทียบกับเรื่อง Event Horizon และ Alien ก่อนจะถกเถียงกันอย่างหนักว่าในสามเรื่องนี้ เรื่องไหนควรจะได้เรตติ้งดีกว่ากัน

 


14. Hellboy (2004) และ Hellboy II: The Golden Army (2008) – Ratings: 6.8 และ 7.0
และนี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่จากกราฟฟิคโนเวล ว่าด้วยซูเปอร์ฮีโร่จากนรก เฮลล์บอย น่าแปลกใจตรงที่แฟนๆ ดูจะชอบภาคต่อมากกว่าภาคแรกเสียอีก! สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ผู้กำกับและเขียนบทเป็นผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญในด้านความสยองขวัญยุคใหม่ กิลเยโม เดล โทโร่ นั่นเอง

 


13. Blade (1998) และ Blade II (2002) – Ratings: 7.1 และ 6.7
เวลลีย์ สไนปส์ ปล่อยหนังแฟรนไชส์เรื่องนี้ออกมาโดยมีพื้นมาจากตัวละครจากคอมมิคของมาร์เวล – ลูกครึ่งแวมไพร์, ครึ่งอมตะ ผู้คอยปกป้องมนุษยชาติ แฟนๆ รักภาพยนตร์เรื่องนี้จากสองภาคแรค ส่วนภาค Trinity นั้นไม่โดนใจเท่าไหร่นัก และได้เรตติ้งเพียง 5.9 เท่านั้น

 


12. Underworld (2003) และ Underworld: Evolution (2006)– Ratings: 7.0 และ 6.8
เรื่องราวของนักรบแวมไพร์สาวผู้ต่อสู้กับไลแคน และตกหลุมรักกับไฮบริด ภาพยนตร์สุดมันส์ที่มีภาคต่ออะมาอย่างต่อเนื่อง แม้เรตติ้งจะร่วงลงบ้างก็ตามที ทว่านั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะผู้กำกับยังมีแผนจะรีบูทอยู่อีก!

 


11. Pitch Black (2000) และ The Chronicles of Riddick (2004) – Ratings: 7.1 และ 6.7
บางครั้งการกลัวความมืดก็อาจเป็นเรื่องที่ดี นี่คือหนังสยองขวัญอีกเรื่องหนึ่ง ตามชื่อเรื่องไปเลย! เรื่องของหลุมมืดๆ และสิ่งมีชีวิตกระหายเลือด และช่องว่างระหว่างวัย เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้คนทุกวัยต้องขวัญผวา  นำแสดงโดยวิน ดีเซลล์ ซึ่งได้รับการตอบรับดีจนขึ้นภาคสอง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า The Chronicles of Riddick นั้นอาจไม่ได้รับความรักจากแฟนๆ เท่าภาคแรก



10. World War Z (2013) – Rating: 7.0
แม้ว่าระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ แบรดด์ พิทท์ จะประสบกับปัญหามากมายจนแทบจะล้มเลิกไปกลางคัน แต่ท้ายที่สุด เรื่องราวของโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้เรื่องนี้ก็ถ่ายทำจนสำเร็จ แม้จะสร้างขึ้นจากนวนิยาย แต่เรื่องราวก็ไม่ได้เหมือนในหนังสือเสียทีเดียว มันกลายเป็นหนึ่งในหนังซอมบี้ที่สมจริงที่สุดเรื่องหนึ่ง แสดงให้เราเห็นถึงการรับมือและแก้ปัญหาของรัฐบาล การตอบโต้ของกองทัพต่างๆจากทั่วโลก และซีนในตำนานที่เยรูซาเล็ม!!! 

 

9. Cloverfied (2008) – Rating: 7.1
ภาพยนตร์แนว “ภาพจากกล้อง” นั้นอาจทำให้หลายคนรู้สึกเวียนหัวหน่อยๆ เวลาดู แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นวิธีเล่าเรื่องแบบที่สามารถดึงให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเข้มข้นและตึงเครียดได้ดียิ่ง สำหรับ Cloverfield นี้เล่าถึงกลุ่มชาวนิวยอร์คผู้พยายามเอาตัวรอดจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดลึกลับ โดยมีเนื้อเรื่องตื่นเต้น สยองขวัญ ประทับใจแฟนนานุแฟนจนนำไปสู่ถาพยนตร์เรื่อง 10 Cloverfield Lane 

แต่ก็นั่นแหละ ด้วยวิธีการถ่ายทำแบบนี้ ทำให้คนที่รักหนังเรื่องนี้ก็จะรักกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ส่วนคนที่เกลียด ก็อาจจะเกลียดยาวไปเลย


8. The Ring (2002) – Rating: 7.1
“อย่าเล่นเทปนั่น!” ภาพยนตร์แนวสืบสวน-สยองขวัญที่ เล่าเรื่องราวของนักข่าวผู้ออกสืบเรื่องตำนานเมือง ว่าด้วยวิดีโอเทปที่หากใครได้ดู คนนั้นจะต้องพบกับความตายภายในหนึ่งอาทิตย์ The Ring เป็นหนังสยองขวัญอเมริกันที่รีเมคจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นในชื่อ Ringu ซึ่งสร้างจากนวนิยายสยองขวัญอีกที อย่างไรก็ตาม เวอร์ชั่น U.S. นั้นได้รับความนิยมมากกว่า จนกระทั่งมีภาคแยกออกมาด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เวิร์ค เพราะ The Ring Two ได้รับเรตติ้งเพียง 5.4 เท่านั้น

 

7. The Mist (2007) – Rating: 7.2
แฟรงค์ ดาราบอนท์ กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้จากเรื่องสั้นของสตีเฟน คิง และเหล่านักแสดงที่ปรากฏตัวในเรื่องนี้ก็จบลงด้วยการโผล่ไปรับบทเด่นๆใน “The Walking Dead” ซะงั้น


เรื่องราวจากคิง : เล่าถึงหมอกประหลาดที่ปรากฏขึ้น ครอบคลุมเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง นำมาซึ่งสิ่งมีชีวิตประหลาดกระหายเลือดจากต่างโลก กลุ่มชาวบ้านกลุ่มหนึ่งซึ่งติดอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึว่งแน่นอนว่าโชคดีเพราะเต็มไปด้วยของยังชีพ...แต่ก็นั่นแหละ ด้วยสัญชาติญาณมนุษย์ ใครจะยอมติดอยู่ในที่เดียวนานๆ กันล่ะ? พวกเขาจึงพยายามหาทางหลบหนี และเอาตัวรอดจากสถานที่แห่งนี้!

มันเป็นภาพยนตร์ไซไฟ สยองขวัญที่เจ๋งเป้ง แต่คะแนนโหวตอาจจะลดลงมาหน่อย เพราะการแฝงเรื่องศาสนาที่มากจนเกินเหตุ หรืออาจจะเพราะหลายส่วนที่ต่างไปจากในหนังสือก็เป็นไปได้เหมือนกัน

 

6. The Descent (2005) – Rating: 7.2
เมื่อโรคกลัวที่แคบ+สิ่งมีชีวิตประหลาดที่พยายามจะฆ่าคุณ = ฝันร้ายสุดขีด! แทนที่จะพาคุณไปสู่ที่โล่งไร้สิ้นสุด  The Descent จะพาคุณไปในทางตรงกันข้าม ส่งกลุ่มเพื่อนๆ ส่ถ้ำที่มีพื้นที่จำกัด และเหมือนอะไรๆ ก็จะดูผิดทิศผิดทางไปหมด หนังที่จะทำให้คุณไม่อยากเข้าไปในที่มืดๆ หรือที่ปิดทึบอีกเลย!

 



5. I Am Legend (2007) – Rating: 7.2
ภาพยนตร์แนวทรมาณจิตใจ ชวนให้ใจสลาย สยองขวัญแบบดิสโทเปีย โรเบิร์ท เนวิลล์ ดูเหมือนจะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากโรคระบาดที่พรากชีวิตประชากรมนุษย์ส่วนใหญ่ไป และเหลือทิ้งไว้เพียงตัวประหลาดที่จะออกมาตอนกลางคืน ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เนวิลล์จึงต้องหาทางรักษาโรคประหลาดนี้ พร้อมๆกับที่ต้องพยายามเอาชีวิตรอดไปพร้อมๆกับแซม หมาของเขา

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายโดย ริชาร์ด แมธีสัน และถูกเปรียบเทีรยบกับภาพยนตร์เรื่องอื่นอย่าง The Omega Man และ The last Man On Earth อยู่พอสมควร แต่ก็ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้! สุดท้ายนี้ อย่าลืมไปโหวตให้หนังเรื่องนี้กันล่ะ อย่างน้อยก็เพื่อเจ้าแซม แซมสมควรจะได้รับคะแนนบ้าง อะไรบ้าง!



4. Dawn of the Dead (2004) – Rating: 7.4
นี่ควรจะเรียกว่าหายนะ! แฟนนานุแฟนของภาพยนตร์ซอมบี้สุดคลาสสิคต่างพากันร่ำร้องสาปแช่งโทษฐานที่มีคนบังอาจทำรีบูทเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณความฉลาด ตลก บทที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น เหล่าตัวละครที่ชวนให้หลงรัก (และชวนให้เกลียดด้วย) รวมไปถึงฉากต่อสู้ และเหล่าซอมบื้ที่เร็วเป็นบ้า  ภาพยนตร์เวอร์ชั่นศตวรรษที่ 21 นี้มีฐานแฟนๆเป็นของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังได้คะแนนโหวตไม่เท่าเวอร์ชั่นคลาสสิคที่เรตติ้งพุ่งไปถึง 8.0 ทีเดียว

 



 

3. Rec (2007) – Rating: 7.5
ถ้าคุณชอบความสยองแบบเรียลๆ แนวๆภาพวีดีโอ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณต้องปิดตาด้วยความสยอง1 เรื่องราวถูกเล่าจากมุมมองของทีมงานรายการโทรทัศน์ในท้องถิ่นเมืองมาดริด ผู้ตามหน่วยกู้ภัยเข้าไปในตึกร้างอันมืดมิด จบลงด้วยการติดอยู่ข้างในกับบางสิ่งที่น่าสะพรึง!

เรื่องราวเข้มข้นสุดสะพรึง จากมุมมองบุคคลที่ 1 แสดงโดยนักแสดงที่เราไม่รู้จัก เหล่านี้ทำให้เรื่องราวยิ่งสมจริงติดตาคนดู อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกรีเมคอีกครั้งในปี 2008 สู่เวอร์ชั่นอเมริกัน Quarantine ทว่ามันไม่ประสบความสำเร็จนัก โดยได้รับเรตติ้งจากแฟนๆเพียง 6.0 เท่านั้น

 



 

2. 28 Days Later (2002) และ 28 Weeks Later (2007) – Ratings: 7.6 และ 7.0
พวกเขาไม่ใช่ซอมบี้ แต่คือ “ผู้ติดเชื้อ” –ที่เกรี้ยวกราด และเร็วเป็นบ้า ภาพยนตร์รีบูทต้นทุนต่ำของเดนนี่ บอยเลอร์ ผู้ปลุกกระแส “ซอมบี้” และทำให้พวกเราได้รู้จักกับฮีโร่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ ก่อนที่เราจะได้เห็น ริค กริมม์ ใน “เดอะ วอล์คกิ้ง เดด” ซะอีก

ตัวละครในเรื่องจะนี้พาให้คุณอินไปกับพวกเขา ฉากแอคชั่นที่ชวนให้ใจเต้นระทึกพล็อตทวิสต์ชวนให้ต้องอ้าปากค้าง ทำร้ายจิตใจ และพาให้โมโห! เนื้อเรื่องชวนให้เชื่อได้ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นได้จริงใน 28 วัน หรือ 28 สัปดาห์หลังจากนี้ แน่นอนว่าภาคแยกอย่าง 28 Weeks later ก็เป็นที่ประทับใจแฟนนานุแฟนชั่นกัน แม้จะไม่ไฮป์เท่าภาคแรกก็ตาม

 



 

1. Let the Right One In (2008) – Rating: 8.0
สวยงาม น่าหวาดหวั่น มืดมน หดหู่ อบอุ่นหัวใจ ซับซ้อน ขมขื่น แต่ก็หวานซึ้ง เรื่องราวของเด็กชายอายุ 12 ปี เด็กชายขี้แพ้ที่โดนรังแกจากเพื่อนที่โรงเรียน ออสการ์ ตกหลุมรักเ อลลี่ เด็กสาวในห้องพักข้างๆ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยในอพาร์ทเม้นต์เดียวกัน และเธอคนนั้นก็อายุ 12 ขวบ...มา200 ปีแล้ว ในขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้พัฒนาไป  เอลลี่ก็ยังคงต้องการเลือดมนุษย์ และดูเหมือนมันจะเป็นปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ

จากนวนิยายสู่ภาพยนตร์สยองขวัญหลากอารมณ์จากฝั่งสวีเดน นำไปสู่การรีเมคเป็นฉบับอเมริกัน Let Me In นำแสดงโดย โคดี้ สมิธแมคฟี, โคลอี้ เกรซ มอเรซ และริชาร์ด เจนกินส์ แม้ฉบับรีเมคจะมาหลังจากต้นฉบับเพียงสองปี แต่แฟนๆก็ยังปลื้มปริ่มอย่างมากมาย และได้รับการเรตติ้งจากการโหวตก็พุ่งไปถึง 7.2 (แม้จะยังไม่ถึงแสนคนก็ตาม) อย่างไรก็ตาม แม้แฟนๆจะชอบทั้งสองเวอร์ชั่น แต่ก็มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นก็กล่าวว่าเวอร์ชั่นรีเมคดีกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับ

ที่มา Imdb.com

: เกร็ดหนังดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกร็ดหนังดี ล้วงลึกก่อนดูภาพยนตร์ หม่อม
  • เกร็ดหนังน่ารู้ ก่อนดู Black Adam 20 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!
  • เกร็ดภาพยนตร์ Vesper ฝ่าโลกเหนือโลก 6 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์
  • 6 เกร็ดหนังทวนความจำก่อนดู Fantastic Beasts: The Secrets Of The Dumbledore
  • เกร็ดเบื้องหลังน่าสนใจ Justice League จากปากของผู้กำกับฯ แซ็ค สไนเดอร์
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :