ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > รีวิวหนังวันวาน

THE TRANSPORTER II

4 ม.ค. 2556 00:00 น. | เปิดอ่าน 1397 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 




สวัสดีครับ เหล่านักเสพย์ ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ ผ่านสื่อ อินเตอร์เน็ท
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวว่า บทความนี้เป็น บทความวิจารณ์ ( ซึ่งจริง ๆ ไม่อยากเรียกว่า วิจารณ์ ) ปฐมฤกษ์ให้กับ nangdee โฉมใหม่ นะครับ แต่เดี๋ยวก่อน โปรดอย่าคาดหวังกับการวิจารณ์ ภายนตร์ ที่เป็นภาพยนตร์เก่าๆ ชนโรง ที่ ผมกำลังจะเล่าสู่ท่านนี้ ว่ามันจะเลิศเลอ หรือ จะเข้าข้างตัวภาพยนตร์ หรือ ว่าเขาจ้างมาวิจารณ์ หรือจะ วิจารณ์ได้อย่างนักวิจารณ์มืออาชีพ ขอโทษด้วยครับ คงไม่มีทางเป็นไปได้ ตรงกันข้าม ผมจะวิจารณ์อย่าง คนชอบดูภาพยนตร์ และ ในมุมมองของคนที่เสียเงินไปดูจากโรงภาพยนตร์ ไม่ใช่อย่างผู้ที่ชอบดูหนังฟรี ตามคำเชิญ แต่ก็ยำหนังเค้าซะเละ หรือ ถูกจ้างมาเชียร์จนออกนอกหน้านอกตา ครับ......เอาละ เข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้คงต้องขอให้ตามผมไปพบกับคำวิจารณ์ (เน้น แม้ไม่อยากเรียกก็ตาม) เรื่อง THE TRANSPORTER II ครับ

 



เดอะ ทรานสปอร์เตอร์ 2 รูป ฟอร์มเป็น ภาพยนตร์ แอ็คชั่น แถม ยังมี เครดิต ลุค เบซอง ผู้กำกับดังจากฝรั่งเศส ที่ดังมาจากภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง เลยทีเดียว ( อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งคาดหวังนะ) แต่เรื่องนี่เค้าผันตัวเองมาเป็นผู้อำนวยการสร้างในเรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เลยกลายเป็น ภาพยนตร์ลูกครึ่ง ระหว่าง ฮอลลีวูด กับ ฝรั่งเศส (สไตล์ ลุค เบซอง)

ห่ะแรก ที่ผมเห็น ตัวอย่างเรื่องนี้ พร้อมกับ คำ โปรยที่ว่า เป็นภาพยนตร์ non-stop action อะไรประมาณนี้ ก็อยากดูละครับ เลยพลาดไม่ได้ ต้องไปดูซะ เอาละ ตามผมเข้าโรงภาพยนตร์มาเลยครับ

ตัวภาพยนตร์ ก็ อย่างที่บอกล่ะครับ ช็อตแรกของภาพยนตร์ เข้ามาก็ บู้กันเลยครับ ก็พอจะใจชื้นละครับ ว่าได้ดู non-stop แน่ ๆ แต่แหมมาสะดุดใจตรง ช่างเป็น ภาพยนตร์ที่ทันยุคทันสมัยเสียเหลือเกิน มีการขายของ โฆษณาแฝงกันซะ ไม่ว่าจะเป็น รถ (อภัยได้ เพราะเป็นตัวเอกของเรื่อง ) เครื่องดื่มแอลลอฮอลล์ เครื่องประดับ โทรศัพท์ และที่จับไม่ได้อีก โอ๊ยยย…จะหวังอะไรกันนักหนา กับผลทางการตลาด หรือ โฆษณา ชอง co-sponsor อุ๊ย….ออกนอกเรื่องอีกแล้ว พระเอกของเราภาพนี้ ยังคงความเป็น ผู้ส่งของ ที่มีกฎเกณฑ์ประจำตัว เช่นเคย แต่เปลี่ยนจาก ขับ BMW มาเป็น AUDI A8 เครื่อง V12 6000 ซีซี ครับ แรงสุด ๆ ราคาออกจากโรงงานที่เยอรมัน 6 ล้านกว่าบาท มาถึงเมืองไทย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านเศษ (น้ำลายหกจนแห้งเลย) โชว์สมรรถนะรถกันสุด ๆ ตลอดเรื่อง ทีนี้มาดูเกี่ยวกับหนังกันเลยครับ ไม่อยากเล่าเรื่อง เดี๋ยว วัยรุ่นเซ็ง

บทภายนตร์พอ ใช้ได้ครับ ดีกว่าภาคแรก มีความซับซ้อนขึ้น แต่ไม่ลึกซึ้งจนเกินไป เป็น สูตรสำเร็จ ตายตัวว่า เรื่อง มาอย่างไร ไปอย่างไร และจะจบอย่างไร ไม่ต้องคิดมากเลยครับ

 


ดารา พระเอก ของเรา เท่ห์มากครับ เก่งในฉากแอ็คชั่นอยู่แล้ว ดูได้จากภาคแรก ภาคนี้กลับดีกว่าเห็นได้ชัดมาก แต่ก็ต้องยกความดีให้กับ ผู้กำกับ คิวบู้ ด้วยครับ ทำได้เนียนมากครับ ซึ่ง ยังเป็นต่อ หนัง ในบ้านเราอยู่มาก ภาพยนตร์ไทย ไม่ใช่ตัวแสดงแทน เค้าก็ไม่ใช้เหมือนกัน ไม่ใช้สลิง เค้าก็ไม่ใช้เหมือนกัน แต่เค้าเนียนกว่า เพราะ คนกำกับคิวบู้เค้าเก่งจริง ๆ ไม่ใช่หนังไทยไม่เก่งนะครับ แต่เรื่องความเนียนต้องยกให้เค้าจริง ๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉากบู้แปลกตาเยอะมาก สมเป็น ฉากบู้ แบบ มาร์เชี่ยนอาร์ต non-stop action จริง ๆ แต่การ แสดง ทั่วไปของพระเอกเรา ก็ยังแข็ง ๆ อยู่ ครับ อีกอย่าง พอเป็นคนขาวหัวล้าน มันทำไมไม่หล่อ เหมือน คนดำ ก็ไม่รู้ ( ดู วินซ์ ดีเซลล์ ซิ ) ดาราประกอบต่าง ๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดี จะสะดุดก็แต่ อีทมิฬ นางร้ายของเรื่อง ที่ตัวยาว ๆ โย่ง ๆ เธอยิ่ง ตามล่า มาสคาร่า เธอยิ่งเยิ้ม น่ากลัวมาก สมกับบทบาท นักฆ่าโรคจิต แต่ หนังพยายามจะให้เธอ เซ็กซี่ สุด ๆ แต่มองเท่าไร ก็ไม่เซ็ก หรือเธอไม่ใช่เสป็คเราก็ไม่รู้ ส่วนตัวโกงเอกของเรื่อง เปิดตัวได้อย่างสุด ๆ เก่ง เคนโด้ ซะขนาด ไอ้เรานักว่าเดี๋ยวท้ายเรื่อง มันต้องใช้ วิชา เคนโด้ ซึ่งมันเก่งมาก มาเป็น ไคลแม็กซ์ ท้ายเรื่อง เปล่าเลย มันหักมุมซะ แต่มันก็แสดงได้ดีมาก เรียกว่าดูแล้วต้องเกลียดมันทันที

การกำกับ ยัง ไม่เนี๊ยบเนียนมาก และ แปลกไปจาก สไตล์ ลุค เบซอง คุณจะไม่ได้เห็นสไตล์แบบ still โฟร์กราวด์ เช่นตัวแสดงจะหยุดเกือบนิ่ง และ แบ็คกราวด์ จะเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว วินาศสันตโร แล้วกล้องจะใช้ซูมเร็ว เคลื่อนเข้าออก ให้ภาพที่หวือหวา แต่จะเป็นฉาก บู้ต่อเนื่อง การไล่ล่า ตั้งแต่ รถกับรถ รถกับเรือ รถกับเฮลิคอปเตอร์ เจ็ตสกี จนถึง วิ่งสู้ฟัด เล่นกันแบบ สะใจ แบบ ฮอลลีวูด ให้คนดูเหนื่อยกันไปเลย อย่างที่บอก เป็นลูกผสมระหว่าง ฮอลลีวูด กับ ฝรั่งเศส ก็จะมีการ คั่น ฉากแอ็คชั่น ด้วยมุขตลก ( แม้จะไม่ฮาตกเก้าอี้ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ทีเดียว โดยเฉพาะ ฉาก เพื่อนพระเอกที่เป็นตำรวจ ฝรั่งเศส ที่มาเยี่ยมพระเอก แล้วเข้าไปติดร่างแหด้วย) ก็เป็นเสน่ห์ของ ภาพยนตร์ แบบ ลุค เบซอง ตรงนี้ชอบจริง ๆ ครับ

สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค แม้ จะมีไม่กี่ฉาก เพราะส่วนใหญ่เค้าใช้ความสามารถจากนักแสดงจริง ๆ แต่ ฉากที่ใช้ สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค 2 -3 ฉาก ต้องถือว่า สอบตกครับ ไปจับผิดกันเอาเองนะครับ

การถ่ายภาพ และ การตัดต่อ อัน นี้บอกตรง ๆ ชอบมาก หลาย ๆ ฉาก สวยมาก ไม่ว่าจะเป็นฉาก ไล่ล่า ฉาก แอ็คชั่น ทุกฉาก ของเรื่อง ถือได้ว่าตั้งใจทำเลยทีเดียว หวือหวา ไม่เนิบนาบ ทำให้ ภาพยนตร์ กระชับ ไม่น่าเบื่อ เลยเป็น ภาพยนตร์ที่รู้สึกว่าค่อนข้างสั้นไป การตัดต่อ ไม่ค่อยเนียนครับ continue ไม่ค่อยดี บางตอนยังโดด ( ใบ้นิดนึง คอยดู พลาสเตอร์บนหน้าพระเอกตอนท้ายเรื่องนะครับ ) มีหลายฉาก นักจับผิดภาพยนตร์ คงไม่พลาด นะครับ

-ภาพรวม เป็น ภายนตร์ ที่ดูสนุกครับ ไม่ต้องคิดมาก ภาพนตร์แอ็คชั่น เค้าทำเอาดูมันส์ เข้าว่า จะโม้บ้าง มันก็ต้องมีละครับ แต่ผมว่า ฝรั่งมันโม้มันส์ นะครับ ว่าไม๊ ประมาณ พระเอก หนึ่ง บุกเดี่ยว มีทุกยุคทุกสมัย แต่ก็ขายได้อ่ะ

ความคุ้มค่า ผมให้ 7 เต็ม 10 ครับ
สุดท้าย ก็ขอจบ คำวิจารณ์ เรื่อง The Transporter IIไว้เท่านี้นะครับ เพื่อน ๆ นักท่องเวป เอนเตอร์เทนเม้นท์ หรือคนชอบดูภาพยนตร์ ชอบหรือไม่ชอบ คำวิจารณ์ ติ ชม ได้ นะครับ หรือ ไปดูมาแล้ว มีมุมมองอย่างไร ก็ โพสท์ มาบอกกันบ้างนะครับ แต่ก็ขอเน้นนะครับว่า ผม จะมองภาพยนตร์ อย่างคนเสียเงินดูภาพยนตร์ครับ แล้วเรื่องหน้า เป็นเรื่อง อะไร คอยติดตามนะครับ แล้วจะมาเล่าสู่กันฟังครับ สวัสดีครับ

นัวฟิล์ม

: THE TRANSPORTER II

 
 
 
ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ชื่อ :
 
ความคิดเห็น :
 
 
 
 

ความคิดเห็นที่ 1  จากคุณ mdigital     13 ม.ค. 2567 23:15 น.


 1