ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานสุดท้าทายสำหรับนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง ฮัลลี เบอร์รี่ เมื่อเธอต้องรับบทสาวแกร่งเป็นตัวแทนของมนุษยชาตินำทีมปฎิบัติภารกิจกอบกู้โลกครั้งใหญ่ ก่อนที่ดวงจันทร์จะพุ่งชนโลก และทุกอย่างจะสูญสลายไปในภาพยนตร์แอ็กชัน มหาวิบัติฟอร์มยักษ์เรื่องแรกแห่งปี 2022 "Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก" ผลงานเรื่องล่าสุดของเจ้าพ่อหนังทำลายล้าง โรแลนด์ เอ็มเมอริช ที่เคยสร้างปรากฎการณ์หนังหายนะให้ระเบิดทั่วโลกมาแล้วจาก Independence Day, 2012 และ The Day After Tomorrow

จากเส้นทางการแสดงที่ไม่เคยหยุดยั้งของแอ็กชันสตาร์สาวสุดฮอต ที่ทุกคนรู้จักเธอเป็นอย่างดีกับบทบาทผู้หญิงของเจมส์ บอนด์ ใน 007 Die Another Day รวมถึงภาพยนตร์ชื่อดังอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Catwoman, Kingsman: The Golden Circle และหนังเฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง X-Men, John Wick me เรียกได้ว่า ฮัลลี เบอรี่ คือตัวแม่ทางการแสดงที่ดีกรีความแรงของเธอไม่เคยแผ่ว เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของรางวัลออสการ์จากหนังคุณภาพ Monster's Ball แล้วเธอยังมีผลงานทางการแสดงที่หลากหลายออกมาอย่างต่อเนื่อง และอีกหนึ่งบทบาทที่กำลังมาแรง และเป็นผลงานล่าสุดที่ทุกคนไม่ควรพลาด คือ การรับบทนักบินอวกาศสาวผู้กุมชะตามนุษยชาติจากการทำลายล้างของดวงจันทร์ ในภาพยนตร์เรื่อง Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก

ซึ่งฮัลลีให้คำจำกัดความถึงบทบาทในครั้งนี้ว่า "ฉันรับบทเป็น โจซินด้า ฟาวเลอร์ ผู้อำนวยการ NASA เธอมีความเจ๋ง ฉลาดเป็นกรด เธอเป็นหญิงแกร่งที่สามารถอยู่รอดในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ได้สบาย แถมเธอยังเป็นคุณแม่อีกด้วย ซึ่งมันค่อนข้างตรงกับฉันมาก ในตอนแรกบทนี้ถูกวางไว้ให้ผู้ชายแสดง ต้องยกเครดิตให้โรแลนด์ที่เปลี่ยนมาเป็นตัวละครหญิง และยังคงน้ำหนักในเรื่องเหมือนเดิม ใน Moonfall เราเหมือนเป็นทีมเฉพาะกิจที่ต้องออกไปนอกอวกาศ ทำภารกิจหยุดยั้งดวงจันทร์ที่หลุดวงโคจรมาแล้วกำลังจะพุ่งชนโลก ทำให้เธอต้องกลับมาร่วมงานกับเพื่อนเก่าอย่าง ไบรอัน ฮาร์เปอร์ (แพทริก วิลสัน) นักบินอวกาศ และ เคซี เฮาส์แมน (จอห์น แบรดลีย์) นักทฤษฏีสมคบคิด ทั้ง 3 คนเป็นกุญแจสำคัญของภารกิจออกผจญภัยเพื่อพิทักษ์โลกและดวงจันทร์ เราคือแอนตี้ ฮีโร่ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพิกัดการเดินทางในอวกาศ ขณะที่ฮาร์เปอร์เป็นคนเดียวที่ขับกระสวยอวกาศได้ เคซีคือตัวแทนของหนุ่มจืดทั่วไปที่มีโอกาสชี้ชะตาโลก เขาไม่ได้เป็นนักบินอวกาศ ไม่ได้ทำงานให้ NASA แต่เขามีความสามารถที่จะเป็นกุญแจสำคัญกู้วิกฤติครั้งนี้ได้ ตอนถ่ายทำฉันสนุกมากฉันต้องเล่นกับสภาวะไร้แรงโน้ม ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉัน จริงๆฉันเกือบจะเข้าขั้นเชี่ยวชาญด้านการลอยตัวเลยก็ว่าได้ อย่างบลูสกรีนที่แทบจะว่างเปล่า ซึ่งเป็นฉากในอวกาศตอนเปิดเรื่อง มันไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นเลย ต้องพึ่งจินตนาการอย่างหนัก แต่ผู้กำกับมากประสบการณ์อย่างโรแลนด์ช่วยอธิบายทุกอย่างให้เห็นภาพได้ง่ายมาก การพึ่งแต่จินตนการแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ทั่วไปที่นักแสดงเลือกใช้ เราต้องไว้ใจทีมงานว่าพวกเขาจะสร้างภาพในหัวของเราออกมาได้"