“ตอนที่ จอห์น ติดต่อมา เพื่อเสนอไอเดียเกี่ยวกับหนังภาคต่อ เขาบอกว่า ‘นี่คือไอเดียที่ผมคิดไว้ แค่ฟังที่ผมพูดนะ’ แล้วเขาก็ผ่านฉันก้าวผ่านเรื่องราวนี้ และเขาก็บอกว่า ‘เธอจะได้เป็นฮีโร่ในหนังเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครของเธอ’ และนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนชีวิตของฉันไปเลยค่ะ

 

ตอนนั้นฉันคิดว่า ว้าว! มันเหลือเชื่อเลยที่เขาเชื่อมั่นในตัวฉัน และเขาก็ยอมให้ฉันได้เป็นส่วนสำคัญในมโนภาพที่เขาคิดเอาไว้ แน่นอนว่าฉันไม่อาจปฏิเสธได้เลยล่ะค่ะ

 

ขณะที่ฉันเริ่มอ่านบทรวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับมโนภาพของเขา ซึ่งรวมไปถึงสมาชิกนักแสดงใหม่ ๆ และได้เห็นถึงอุปสรรคต่างที่พวกเขาจะต้องเผชิญ มันทำให้ฉันตื่นเต้นมาก ๆ เลย เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้”

“เขาเป็นผู้กำกับที่เจนจัดประสบการณ์มากคนหนึ่ง เขายินยอมให้นักแสดงทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ได้เสนอแนวคิด และแง่มุมในเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่เราคิดว่าตัวละครของเราน่าจะรู้สึกในช่วงเวลานั้น หรือเราจะมีวิธีตอบสนองยังไง

 

เราได้ลองเวิร์คช็อปและระดมความคิดกันอย่างหนัก ซึ่งมันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แล้วก็ทำให้เราดำดิ่งลงไปสู่โลกใบนี้ และสิ่งที่ตัวละครของเราน่าจะทำกันจริง ๆ”