แม้บิลล์ สการ์สการ์ด (Bill Skarsgard) จะถอดคราบเพนนี่ไวซ์ออกไปแล้วหลังหนัง IT เข้าฉาย แต่ดูเหมือนว่าปีศาจตัวตลกตัวนี้คงยังไม่ยอมจบกับเขาง่าย ๆ สการ์สการ์ดเล่าให้ฟังว่าหลังจากถ่ายหนัง IT เสร็จ เขาก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากเพราะมันเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่เขาจะกำจัดเพนนี่ไวซ์ออกไปจากหัวของเขา แล้วเพนนี่ไวซ์มันก็เริ่มตามกลับมาคุกคามเขาถึงในฝัน

"สำหรับผมก็เหมือนกับทุก ๆ ตัวละครที่ผมทำ ที่ผมมักจะเชื่อมสัมพันธ์เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น" สการ์สการ์ดเผยกับ EW "เพนนี่ไวซ์กับบิลล์ก็ก้าวเข้าไปสู่ความสัมพันธ์แบบนั้นด้วยกัน แล้วผมก็พยายามที่จะหาวิธีเอาความเป็นเขาออกไป ผมต้องทุ่มเทเวลาและความพยายามกับใครอีกคนนี้ หรืออะไรก็ตามแต่ในกรณีนี้เยอะเลยล่ะ มันเป็นแบบนั้นอยู่นานหลายเดือนเลยทีเดียว"

หลังจากต้องสวมวิญญาณเป็นเพนนี่ไวซ์มานาน มันก็เริ่มทำให้ทัศนคติที่เคยมีของสการ์สการ์ดผิดรูปผิดร่างไป "มันเหมือนการอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นภัยมาก ๆ หลาย ๆ คนคงไม่เข้าใจมันจริง ๆ หรอก จนกว่าพวกเขาจะเอาตัวเองออกมาจากมันได้ เพื่อนทุกคนของคุณจะบอกว่า 'นายต้องกำจัดชิ้นส่วนแย่ ๆ นี้ออกไปซะนะ เขาหรือเธอกำลังทำลายชีวิตของนาย' แล้วจากนั้นเมื่อคุณเอาตัวเองออกมาจากมันได้คุณก็จะเห็น ‘ผมแม่งโคตรน่าสังเวชเลย’ แต่ผมคงไม่บอกว่าผมน่าสังเวชที่มาเล่นเป็นเพนนี่ไวซ์หรอกนะ เพราะผมสนุกกับมันมากไม่แพ้กันเลยล่ะ"

สการ์สการ์ดเล่าถึงความยุ่งยากที่เขาต้องเผชิญให้ฟังว่า "หลังจากที่เราถ่ายทำกันเสร็จ ผมก็อยู่ที่บ้านที่สวีเดน บ้านที่ผมอยู่สมัยเด็ก ๆ ตอนที่นั่งดื่มกาแฟอยู่กับแม่ของผมบนโต๊ะในครัวของเรา ผมก็ได้เข้าใจว่า 'โอ้ให้ตายเถอะ! ผมต้องไม่ติดต่อกับความสัมพันธ์แบบนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้วนะ!' มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก ๆ ของความรู้สึกที่มันดีขึ้น เหมือนแบบ 'โอ้พระเจ้า! ผมได้ปลดปล่อยแล้ว ผมไม่ได้ติดต่อกับความมืดมนของตัวละครนี้แล้ว' ผมเปรียบมันเหมือนกับการไล่ผีน่ะ เขากำลังออกไปจากร่างของผม และผมก็กำลังกำจัดพิษของเพนนี่ไวซ์ออกไป ตอนอยู่ที่บ้านหลังจากทำหนังเสร็จแล้ว ผมก็เริ่มเผชิญกับสิ่งที่ผมไม่คุ้นเคยมาก ๆ และก็ฝันเห็นเพนนี่ไวซ์อย่างชัดเจนหลาย ๆ ครั้ง ทุก ๆ คืนเขาจะเข้ามาเยี่ยมผมในฝัน มันเป็นเหมือนผมกำลังติดต่ออยู่กับเขา ทำนองที่ว่าเพนนี่ไวซ์เขามีเอกลักษณ์ที่ต่างไปจากผมอย่างชัดเจน แล้วจากนั้นผมที่อยู่ในฐานะเพนนี่ไวซ์ก็เหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่มันไม่ได้น่าชื่นชมนัก เหมือนว่าผมคือเพนนี่ไวซ์ และผมก็รู้สึกสับสนวุ่นวายจริง ๆ ตอนที่ผมออกไปอยู่ในที่สาธารณะ แล้วผู้คนก็พากันจ้องมองมาที่ผม นี่มันคือกระบวนการของการไล่อสูรกายออกไป มันอัศจรรย์นะ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่มันก็น่าตื่นเต้นดีกับการที่จะได้กลับไปเยี่ยมเขาอีกครั้ง"

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการเจาะลึกเข้าไปในจิตใจของปีศาจตัวหนึ่ง... คุณคงต้องเสียค่าผ่านประตูเพื่อเข้าไปด้วย แต่แน่นอนว่าเพนนี่ไวซ์มีแผนจะกลับมาอีกครั้งในหนังภาคต่อ IT ปี 2019 ซึ่งมันจะโฟกัสไปที่เรื่องราวในครึ่งหลังจากนิยายของสตีเฟ่น คิง ตอนที่แก๊งค์ลูสเซอร์กลับมายังเมืองเดอร์รี่เพื่อการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายกับอสูรกายที่พวกเขาคิดว่าพวกเขาได้กำจัดมันไปนานแล้ว

ที่มา: Ew.com