เห็นใน Netflix มีแต่ซีรี่ส์ฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่แบบนี้ แต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องที่มีจำนวนคนไทยดูมาราธอนมากที่สุดคือ My Only Love Song ซึ่งเป็นซีรี่ส์เกาหลี! ตอกย้ำความฮอตฮิตติดลมบนของกระแสเกาหลีฟีเวอร์เลยใช่มั้ยล่ะ ความจริงแล้วใน Netflix ก็มีซีรี่ส์เกาหลีให้รับชมอยู่หลายเรื่องหลากแนวเหมือนกันนะ ดังนั้นเพื่อเอาใจคอซีรี่ส์เกาหลีที่มีอยู่ไม่น้อยเลยในประเทศไทย วันนี้เราจึงมี 5 ซีรี่ส์เกาหลีใน Netflix มาแนะนำเอาไว้ไปนั่งดู นอนดู จิกหมอนดูมาราธอนกันยาวๆ ไปเลย

 

1. สเตรนเจอร์ (Stranger)

 

ใครชอบซีรี่ส์แนวสืบสวนสอบสวนต้องไม่พลาดเรื่องนี้ Stranger หรือ Secret Forest เล่าเรื่องของอัยการหนุ่มผู้เถรตรง ฮวังชีมก (โจซึงอู) กับตำรวจสาวขาลุย ฮันยอจิน (แบดูนา) ที่ได้เข้ามาสืบสวนคดีฆาตกรรม พัคมูซอง (ออมฮโยซอบ) นักธุรกิจที่เพิ่งล้มละลาย แต่ใครจะรู้ว่าจากคดีฆาตกรรมที่ดูธรรมดาๆ กลับนำไปสู่การเปิดโปงเรื่องราวอื้อฉาวที่เต็มไปด้วยการทุจริตของเหล่าอัยการได้ เรื่องนี้บอกเลยว่าดำเนินเรื่องแบบเข้มข้นมากและยังเต็มไปด้วยความพลิกผันชนิดที่จบตอนหนึ่งเมื่อไหร่จะต้องกดดูตอนต่อไปโดยอัตโนมัติ

 

2. อาร์กอน ทีมข่าวหัวใจเพชร (Argon)

 

ยังคงอยู่ที่ซีรี่ส์เนื้อเรื่องสุดเข้มข้นกับเรื่อง Argon ที่ว่าด้วยทีมรายการข่าวเชิงสืบสวนผู้มุ่งมั่นจะนำเสนอและตีแผ่ความจริงในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม นำทีมโดย คิมแบคจิน (คิมจูฮยอก) ผู้ประกาศที่ซื่อตรงต่อจรรยาบรรณการเป็นนักข่าวของตัวเองและไม่อ่อนข้อให้ใคร แม้รายการจะถูกย้ายผังเวลาออกอากาศมาเป็นเที่ยงคืนแต่เขาก็ยังต่อสู้เพื่อดึงเรตติ้งขึ้นมาให้ได้โดยอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เรื่องนี้มีแค่ 8 ตอน ทำให้ดำเนินเรื่องได้อย่างกระชับรวดเร็ว และแม้จะไม่มีเลิฟไลน์พระนาง แต่มิตรภาพในทีมนี้ก็ชวนอบอุ่นใจจนทำให้คุณคอยเอาใจช่วยพวกเขาไปจนจบเรื่องเลยล่ะ

 

3. ครอบครัวจิตหลุด เพี้ยนสุดหัวใจ (The Sound of Your Heart)

 

เปลี่ยนแนวมาคอมเมดี้กันบ้างดีกว่ากับ The Sound of Your Heart ซีรี่ส์ที่สร้างจากเว็บตูนเกาหลีชื่อดังในชื่อเดียวกัน เป็นเรื่องราวชีวิตฮาๆ ของ โจซอก (ลีกวางซู) นักเขียนเว็บตูนที่กำลังพยายามสร้างชื่อเสียง และครอบครัวของเขาซึ่งประกอบด้วยพ่อ (คิมบยองอก) แม่ (คิมมีกยอง) โจจุนผู้เป็นพี่ชาย (คิมแดมยอง) และแฟนสาวของเขา ชเวเอบง (จองโซมิน) ขอแนะนำว่าอย่าดูเรื่องนี้ถ้ากำลังกินอะไรอยู่ด้วย เพราะมุกตลกที่ยิงมาแบบไม่ยั้งตลอด 30 นาทีในแต่ละตอนอาจทำให้คุณขำจนสำลักได้!

 

4. ย้อนเวลาวุ่นลุ้นรักนายจอมทึ่ม (My Only Love Song)

 

ใครที่เป็นพ่อยกแม่ยกคู่ #กงอี จาก We Got Married ตามมาฟินกันต่อได้ในเรื่องนี้กันเลย My Only Love Song อ้างอิงส่วนหนึ่งมาจากตำนานรักเกาหลีระหว่างองค์หญิงกับชายหนุ่มผู้ยากจน ในเรื่องนี้สาว กงซึงยอน รับบท ซองซูจอง ซุป’ตาร์สาวจอมหยิ่งที่จับพลัดจับผลูถูกพาย้อนเวลาไปอยู่ในยุคโชซอนและได้พบกับนักต้มตุ๋นหิวเงินที่ชื่อว่า อนดัล (รับบทโดย ลีจงฮยอน)  ขอบอกว่าฉากฟินเยอะมากกกกก ยิ่งใครอินกับคู่ #กงอี อยู่แล้วจะยิ่งฟินเข้าไปอีก ดูไปเป็นต้องจิกหมอนไป อิจฉานางเอกสุดๆ

 

5. แบล็ก (Black)

 

ใครชอบเรื่องที่มีกลิ่นอายแฟนตาซีนิดๆ เสริมด้วยการสืบสวนสอบสวนแบบเข้มข้น แนะนำเรื่องนี้เลย Black เป็นเรื่องราวของ คังฮารัม (โกอารา) หญิงสาวที่มองเห็นความตายได้ล่วงหน้าโดยจะเห็นเป็นเงาดำซ้อนร่างของคนคนนั้น เธอได้มาเจอกับ ฮันมูกัง (ซงซึงฮอน) นักสืบที่ถูกยมทูตสิงร่าง และทั้งสองก็ร่วมมือกันช่วยชีวิตคนที่กำลังจะตายไปพร้อมๆ กับการพยายามสืบหาความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต เรื่องนี้พล็อตซับซ้อนชวนติดตามมากๆ ยังฉายไม่จบและมี 2ตอนใหม่ออกมาทุกวันศุกร์ ในระหว่างนี้จึงขอแนะนำให้ดูตอนที่ออกมาแล้วแบบมาราธอนรอไปก่อน ดูจบแล้วจะพบว่าตัวเองรอตอนต่อไปแทบไม่ไหวเลยล่ะ

 

เห็นไหมล่ะ ใครว่า Netflix มีแต่สายฝอ คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วหันมาเลือกชมซีรีส์เกาหลีที่มีอยู่ไม่น้อยเลยใน Netflix นอกจากนี้คุณภาพก็ดีกว่าด้วยความคมชัดระดับ 4K ที่มีให้เลือก ให้พวกเราได้ดูแล้วฟินกันสุดๆด้วยประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่า แถมยังดูที่ไหนจากอุปกรณ์อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ระวังล่ะ รู้ตัวอีกทีอาจจะดูจนข้ามวันเลยก็ได้นะ เราเตือนคุณแล้ว!