ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > ข่าวหนัง

เกร็ดหนังดี น่ารู้ จากภาพยนตร์เรื่อง Rogue One: A Star Wars Story

9 ธ.ค. 2559 09:26 น. | เปิดอ่าน 1380 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

- "Rogue One: A Star Wars Story" เป็นภาคแรกในซีรีส์ภาพยนตร์เรื่องเดี่ยว ที่กำลังถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มตำนานหน้าใหม่ของ Star Wars และเปิดโอกาสให้ทีมผู้สร้างได้สำรวจจักรวาลแห่งนี้และได้ทดลองกับสไตล์และวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันออกไป

- "Rogue One" เป็นการกลับมาของตัวละครหลายตัวที่แฟนๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันดี รวมถึงหัวหน้าสภากลุ่มปฏิวัติ มอน มอธมา ที่รับบทโดย เจเนเวียฟ โอ’ ไรลีย์ อีกครั้งหนึ่ง

- ในการสร้างลุคและความรู้สึกที่พวกเขาต้องการสำหรับ "Rogue One" ผู้กำกับแกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์และผู้กำกับภาพเกร็ก เฟรเซอร์ ได้กลับไปใช้เลนส์กล้องแบบยุค 70s อีกครั้งหนึ่ง และผสมผสานมันเข้ากับเทคโนโลยีดิจิตอลสมัยใหม่

- ในการสร้างลุคของตัวละคร จิน เออร์โซ สำหรับนักแสดงสาวเฟลิซิตี้ โจนส์ ทีมผู้สร้างได้รับอิทธิพลจากนักสู้หญิงเพื่ออิสรภาพชาวเคิร์ดและความเป็นญี่ปุ่น เสื้อด้านในของจินก็มีพื้นฐานการออกแบบแบบญี่ปุ่น

 

 

- การสร้าง เค-ทูเอสโอ หุ่นยนต์รุ่นใหม่ ที่มีการแสดงผ่านเพอร์ฟอร์แมนซ์ แคปเจอร์และพากย์เสียงโดย อลัน ทูดิกค์ ต้องอาศัยทักษะที่ผสมผสานกันของทีมงานที่อินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค (ไอแอลเอ็ม) และนีลสแกนแลน และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งมีชีวิตและหุ่นยนต์ เค-ทูเอสโอ  ถูกสร้างขึ้นมาเป็นตัวแบบขนาดเท่าตัวจริงก่อนด้วยฝีมือทีมงานของสแกนแลน ก่อนที่จะถูกสร้างขึ้นภายหลังด้วยวิชวล เอฟเฟ็กต์

- การจำลองลุคของ ดาร์ธ เวเดอร์ ขึ้นมาเป็นความท้าทายสำหรับผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย กลิน ดิลลอนนและเดวิด ครอสแมน เพราะใน Star Wars แต่ละภาค จะมีความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเครื่องแต่งกายของวายร้ายคนนี้ ยกตัวอย่างเช่น หมวกเกราะที่เวเดอร์สวมใน The Empire Strikes Back จะมีความเงาวาวกว่าในภาคก่อนหน้านั้น แต่หลังจากการปรึกษาหารือกัน ผู้กำกับก็ตัดสินใจว่าเขาชื่นชอบเวอร์ชันสีด้านอย่างที่ปรากฏใน A New Hope มากกว่า ผลก็คือการจำลองลุคของเวเดอร์ขึ้นอย่างตรงไปตรงมา โดยที่กล่องที่เข็มขัดของเวเดอร์จะตรงกับที่ปรากฏใน A New Hope แม้กระทั่งรอยขีดข่วนเล็กๆ และกล่องตรงหน้าอกก็จะเป็นไม้ทาสีที่มีกระดุมติดเหมือนเดิม

- นอกเหนือไปจากกลุ่มสตอร์มทรูปเปอร์ ที่โด่งดังแล้ว ผู้กำกับ แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ ยังต้องการให้แฟน ๆ ได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าหวั่นเกรงด้วย นั่นเองจึงเป็นต้นกำเนิดของ เดธ ทรูปเปอร์ พวกเดธ ทรูปเปอร์เป็นแบบดีไซน์ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ "Rogue One" โดยเฉพาะ พวกเขาเป็นกลุ่มนักสู้ชั้นสูงที่สวมชุดสีดำ ในขณะที่ชุดของสตอร์มทรูปเปอร์จะถูกสร้างขึ้นสำหรับทุกคนที่มีความสูงเกินกว่าห้าฟุตเก้านิ้ว เดธ ทรูปเปอร์ ผู้น่าสะพรึงกลัวแต่ละคนจะมีความสูงเกินกว่าหกฟุตทั้งนั้น

 

 

- ผู้กำกับอยากให้สิ่งมีชีวิตใน "Rogue One" มีความเป็นธรรมชาติและเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้จริง ๆ ในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ จึงถูกปฏิบัติราวกับเป็นนักแสดงในฉากด้วย ถึงขั้นที่ว่าทีมงานช่างผมและเมคอัพได้เพิ่มฝุ่น คราบ เหงื่อและรอยเปื้อนให้กับพวกเขา เหมือนกับที่เพิ่มให้กับนักแสดงคนอื่น ๆ ด้วย

- ฉากหนึ่งที่แฟน ๆ จะคุ้นตากันดีคือฐานทัพของฝ่ายกบฏบนดาวยาวิน 4 ที่เราได้เห็นครั้งแรกใน Star Wars: A New Hope แต่ในขณะที่ลูคัสสามารถสร้างฐานทัพของฝ่ายกบฏได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุผลด้านงบประมาณ และอาศัยการทาสีเพื่อสร้างภาพลวงตาในเรื่องขนาด กองถ่าย "Rogue One" สามารถสร้างฐานทัพนั้นขึ้นมาได้ทั้งหมด นอกเหนือจากนั้น พวกเขายังสามารถไปเยือนโลเกชันเดิมที่ใช้ถ่ายทำฉากดาวยาวิน 4 ซึ่งก็คือสนามบินคาร์ดิงตันในอังกฤษได้ด้วย โรงเก็บเครื่องบินขนาดมหึมาทำให้ผู้ออกแบบงานสร้างมีโอกาสได้สร้างดาวยาวิน 4 ขึ้นมาจริง ๆ ฉากที่เสร็จสมบูรณ์มีความยาวประมาณ 350 ฟุตและกว้าง 200 ฟุต

 

 

- ฉากโรงเก็บยานบินบนดาวยาวิน 4 ถูกตกแต่งรอบด้าน แม้กระทั่งทีมงานก็ยังต้องสวมเครื่องแต่งกาย ฉากเจดาห์ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน และทีมผู้สร้างก็ถ่ายทำที่โลเกชันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษาความสมจริงให้กับเรื่องและทำตามวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ แม้กระทั่งตอนที่จำเป็นต้องใช้บลูสกรีน ทีมงานก็ได้สร้างส่วนต่าง ๆ ของฉากขึ้นมาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีสิ่งอ้างอิงจริง ๆ ในการช่วยบ่งบอกได้ว่าวิชวล เอฟเฟ็กต์ควรจะมีลุคและให้ความรู้สึกอย่างไร

- สำหรับแรงบันดาลใจเบื้องหลังการสร้างนครศักดิ์สิทธิ์แห่งเจดาห์ ผู้ออกแบบงานสร้างได้มองไปที่เมืองเก่าแก่อย่างเยรูซาเล็มและป้อมปราการในทะเลทรายมาซาดาในประเทศอิสราเอล อีกหนึ่งอิทธิพลสำคัญในการสร้างเจดาห์คือกรุงปารีสระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

 

 

- ด้วยเส้นขอบฟ้าที่เห็นได้ชัดเจนและความเข้าถึงได้ง่าย สนามบินโบวิงดัน ซึ่งเป็นฐานทัพเก่าของกองทัพอากาศ ที่ถูกทิ้งร้างไปเกือบครึ่งศตวรรษ เป็นสถานที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการจำลองมัลดีฟส์ขึ้นมา สิ่งที่ขาดไปมีเพียงแค่ทรายและต้นปาล์ม ดังนั้น ทีมผู้สร้างจึงได้สั่งทราย 2,000 ตันและนำเข้าต้นปาล์มกว่า 60 ต้นจากสเปน รวมถึงพันธุ์ไม้ต่าง ๆ จากประเทศอังกฤษด้วย นอกจากนั้น พวกเขายังสร้างชายหาดและใช้น้ำรีไซเคิลจากแทงค์น้ำที่ไพน์วู้ดเพื่อไม่ให้เกิดความสิ้นเปลือง ตามความเป็นจริงแล้ว แผนกศิลป์ได้รีไซเคิลน้ำกว่า 211,000 แกลลอนเข้าสู่แทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่มีขนาด 200x100 ฟุตด้วย 

- ในตอนที่ฉากมัลดีฟส์ที่สนามบินโบวิงดันเสร็จสมบูรณ์ มันก็มีขนาดกว้างใหญ่ถึง 700x500 ฟุต หรือประมาณแปดเอเคอร์ ภายหลัง ทีมงานกลุ่มเล็ก ๆ ได้ไปถ่ายทำที่มัลดีฟส์ด้วยเช่นกัน

 

: เกร็ดหนังดี, Rogue One

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกร็ดหนังดี ล้วงลึกก่อนดูภาพยนตร์ หม่อม
  • เกร็ดหนังน่ารู้ ก่อนดู Black Adam 20 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!
  • เกร็ดภาพยนตร์ Vesper ฝ่าโลกเหนือโลก 6 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์
  • 6 เกร็ดหนังทวนความจำก่อนดู Fantastic Beasts: The Secrets Of The Dumbledore
  • เกร็ดเบื้องหลังน่าสนใจ Justice League จากปากของผู้กำกับฯ แซ็ค สไนเดอร์
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :