“ห้องหุ่น” บทประพันธ์จากปลายปากกาของ สมสุข กัลย์จาฤก ที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครถึง 4 ครั้ง เริ่มต้นจากละครวิทยุในปี 2510  และมาสู่จอแก้วในปี  2519, 2532  และฉบับสุดท้ายในปี 2546 โดยทั้ง 3 ภาคที่กล่าวมาห้องหุ่นได้รับเรทติ้งสูงสุด ณ ขณะนั้นจากผู้ชมทั้งประเทศ แต่สำหรับเนื้อหาของเวอร์ชั่นภาพยนตร์ซึ่งกำกับโดย เต๊นท์-กัลป์ กัลย์จาฤก นั้น เป็นเรื่องราวของนพ ชายหนุ่มผู้สูญเสียน้องสาวอย่างกะทันหัน เขาพบว่าก่อนเสียชีวิตมีผู้ปั้นหุ่นขี้ผึ้งเหมือนเธอในบ้านหลังหนึ่ง หลังจากสืบเรื่องราวไปเขาก็ได้พบกับ พลอย หญิงสาวผู้สูญเสียพ่อด้วยสาเหตุเดียวกัน พวกเขาทั้งสองจึงมุ่งไปที่บ้านของช่างปั้นหุ่น ซึ่งเป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด

                ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบรุ่นใหม่ อาทิ นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล อรลีฬห์  โสตถิวันวงศ์ และ บริวัตร อยู่โต รวมถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ในเวอร์ชั่นละครอย่าง แก้ว-อภิรดี ภวภูตานนท์ และอาจารย์เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์ มาช่วยเพิ่มอรรถรสของหนังเรื่องนี้ด้วย

    อนันดา เอเวอริ่งแฮม รับบท “นพ”  นักสังคมสงเคราะห์หนุ่ม ที่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม มีภาระต้องเลี้ยงดูน้องสาวที่พิการตั้งแต่เด็ก นพเคยเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน แต่หลังจากน้องสาวตายอย่างปริศนาทำให้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน เงียบขรึม เก็บตัว หมกมุ่นในการสืบค้นข้อมูลจนตัดขาดจากสังคม ยึดติดอยู่กับความผิดพลาดในวัยเด็ก จนบั่นทอนอนาคตของตัวเอง

                “นพเป็นคนที่มีความสับสนในชีวิต มีปัญหากับการควบคุมตัวเอง เป็นตัวละครที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเพี้ยนอยู่หรือเปล่า มีความขัดแย้งในตัวเองว่าสิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่ได้ยินมันจริงหรือเปล่า จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้พยายามค้นหาความจริงให้ได้ ระหว่างนั้นอาการก็แย่ไปเรื่อยๆ ตอนเราดีไซน์ตัวละคร ก็จะแบ่งเป็น 4 เฟส ความโทรมในร่างกายก็จะเป็นไปตามความโทรมในจิตใจ” นักแสดงหนุ่มมากฝีมือ กล่าวถึงบทบาทใหม่ที่ท้าทาย

                นอกจากนี้ยังเผยถึงการได้ร่วมงานกับทีมงานรุ่นใหม่ และผู้กำกับไฟแรงว่า  “ผมค่อนข้างชอบทำงานกับคนใหม่ๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในวงการหนัง เพราะบางทีเราอยากให้วงการหนังมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเต๊นท์เขาไม่เหมือนผู้กำกับคนอื่นที่ผมเคยคุยด้วย ความพยายามของเขาเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ ผมชอบคนที่แบบ…หนังเรื่องแรก อยากทำอย่างนี้ อยากลองอย่างนั้น แล้วทุกขั้นตอนเขาให้ผมมีส่วนร่วมมาก เราคุยกันในฐานะเพื่อน ก็เลยเป็น Unique โปรเจ็กต์ พอสมควร”

                ด้านนักแสดงสาว รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล รับบทเป็น “พลอย”  นักศึกษาสาวปีสุดท้าย เรียนเก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูง กล้าตัดสินใจ เชื่อในความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งพลอยกำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก และไม่ได้คุยกับพ่อมาเกือบ 4 ปี หลังจากออกจากบ้านไปเช่าหอพักอยู่ คนเดียว เพราะน้อยใจคิดว่าพ่อไม่รักเพราะว่าพ่อวางแผนจะแต่งงานใหม่ แต่เมื่อพ่อตายจึงรู้สึกผิดอยากเจอพ่ออีกครั้ง

                “คาแรกเตอร์ในเรื่องเหมือนจะเป็นคนก้าวร้าว เพราะแม่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก เลยอยู่กับพ่อแค่สองคน พอมีผู้หญิงของพ่อคนใหม่เข้ามา ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว ไม่ฟังใคร ฟังแต่ความรู้สึกความนึกคิดของตัวเอง บุคลิกภายนอกเป็นคนค่อนข้างแข็ง แต่ลึกๆ แล้วข้างในอ่อนไหว แต่มันลึกมากจนไม่ได้โชว์ความอ่อนไหวออกมามากเท่าไหร่”  พลอย กล่าวถึงบทบาทที่ดูเหมือนธรรมดา ทว่าต้องใช้พลังการแสดงจากภายในพอสมควร    

                “พลอยอยากลองอะไรใหม่ๆ อยากทำอะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน อยากเห็นว่าภาพจะออกมายังไง และเทคนิคต่างๆ ที่เอามาใช้ในหนัง นอกจากนี้สิ่งที่คนดูจะได้จากหนัง คือ ความอยากมันให้คนอื่นทำไม่ได้ เราต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ใช่พึ่งไสยศาสตร์ หรืออะไร สมมติเราอยากให้คนอื่นรักเรา เราไปพึ่งอย่างอื่น สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ของจริงอยู่ดี หรือพ่อในเรื่องอยากเป็นนักยิงธนู และอยากให้ลูกกลับมารัก เขาก็ไปปั้นหุ่น สุดท้ายตาย เขาก็ไม่ได้อะไรเลย” นางเอกสาว กล่าวถึงทิ้งท้าย   

                เตรียมสัมผัสประสบการณ์ระทึกขวัญ ลึกลับ ชวนค้นหา กับภาพยนตร์เรื่อง “ห้องหุ่น” วันที่ 19 มิถุนายนนี้ในโรงภาพยนตร์