กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้แล้ว สำหรับ The Rain Stories เมื่อฝนหยดลงบนหัว ของผู้กำกับ "ณิชชี่-ณิชภูมิ ชัยอนันต์" ซึ่งเคยฝากผลงานไว้กับ "พี่ชาย My Bromance" ให้แฟนๆ ได้ประทับใจกันไปแล้ว ซึ่งในปีนี้ The Rain Stories เมื่อฝนหยดลงบนหัว ที่ถ่ายทำยาวนานมากว่า 1 ปี จะได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์กันแล้ว ลองไปดูเหตุผลกันว่าทำไมถึงมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้กันครับ

เกี่ยวกับ The Rain Stories เมื่อฝนหยดลงบนหัว
ผมชอบคลุกคลีกับเด็กมัธยม เพราะผมเป็นคนที่ใช้ชีวิตในวัยมัธยมได้อย่างสุดเหวี่ยงมาก เรายังประทับใจช่วงเวลาวัยเด็กของเราอยู่ ก็เลยเอาตัวเองไปอยู่กับเด็กมัธยมบ่อยๆ เพื่อรักษาความทรงจำวัยเด็กของเราให้อยู่กับตัวเราให้ได้นานที่สุด พอคลุกคลีนานๆ เข้า ผมพบว่า เด็กมัธยมสมัยนี้มีความลับหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ เช่น บางคนเป็นเกย์ แต่ต้องแอบๆ เป็น เพราะกลัวพ่อแม่และเพื่อนจะรับไม่ได้  คือตอนกลางวันคบแฟนเป็นผู้หญิง แต่ตอนกลางคืนแอบคบผู้ชาย กลายเป็นเมียเค้าซะงั้น อะไรแบบนี้ หรือบางคนเกิดมาไม่เคยเจอหน้าพ่อเลย อยู่แต่กับแม่ ไม่เคยสัมผัสความรักจากผู้ชายที่เป็นพ่อ เลยโหยหาความรักจากผู้ชายด้วยกันจนกลายเป็นเกย์โดยไม่รู้ตัว หรือบางคนเป็นผู้ชาย หล่อมาก แต่มีเกย์อ้วนดำ อัปลักษณ์มาชอบ เลยต้องแอบคบกัน แล้วคนที่รู้เรื่องราวพวกนี้ ก็จะมีแค่เพื่อนสนิท หรือคนที่ตัวเองรักเท่านั้นที่รู้ หรือที่หนักไปกว่านั้น คือไม่มีใครรู้เลย ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้น่าค้นหา และน่านำมาตีแผ่ให้คนในสังคมรู้ว่ามันมีอยู่จริง และเราทุกคนควรยอมรับและเข้าใจเด็กพวกนี้ บางคนเป็นเด็กมีปัญหา มีปมในชีวิตก็เพราะเรื่องราวลับๆ ของตัวเองที่บอกใครไม่ได้แบบนี้แหละ ภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงสร้างขึ้นมา เพื่อให้เด็กมัธยมทุกคนมาดูชีวิตของตัวเองเพื่อรู้วิธีการหาทางออกอย่างถูกต้อง มาดูเพื่อทำให้ความรักมันอยู่ได้นานๆ และให้ผู้ปกครองมาดูเพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจกับลูกตัวเองมากขึ้นถ้ากำลังเจอปัญหาแบบนี้

ความสนุกของหนัง
เมื่อฝนหยดลงบนหัวสร้างจาก 3 เรื่องจริง 3 เหตุการณ์จริง และมีตัวละครที่อยู่ในโลกความเป็นจริง นักแสดงทุกคนต้องสวมบทเป็นตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริง ใช้เวลาถ่ายทำทั้ง 3 เรื่องราวของหนัง นานถึง 1 ปี เพื่อเพาะบ่มบทภาพยนตร์และวิธีคิดของนักแสดงให้สุกงอมที่สุด เพื่อให้นักแสดงมีวัยวุฒิ และคุณวุฒิที่โตขึ้นจริงๆ ตามระยะเวลาในหนัง ทั้ง 3 เรื่องราวจะประกอบรวมกันเป็นหนังเรื่องเดียวกันอย่างละมุนละเมียด จนคนดูไม่รู้สึกเลยว่ากำลังดูหนังที่แบ่งเป็น 3 เรื่องราวแต่จะรู้สึกว่ากำลังดูเรื่องราวความรักของนักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน

เกี่ยวกับนักแสดง
เป็นหนังที่ได้ดารารุ่นเก๋าที่ห่างหายจากวงการภาพยนตร์ไปนานถึง 6 ปี คือ พี่ย้ง ธรากร สุขสมเลิศ มารับบทแสดงเป็นพระเอก ซึ่งเป็นการรับบทเกย์ครั้งแรกในชีวิตการแสดงของพี่ย้ง มีฉากเลิฟซีนที่งดงามและมีความหมายกว่าหนังโรแมนติกดราม่าทุกเรื่องที่คุณเคยดูมาในปี 2558 ซึ่งพี่ย้งลงทุนฟิตร่างกายเพื่อแสดงฉากนี้โดยเฉพาะ พร้อมด้วยนักแสดงหน้าเก่าจากภาพยนตร์เรื่อง พี่ชาย My Bromance ที่ทุกคนประทับใจมาร่วมแสดงกันเกือบครบทีม และที่สำคัญที่สุด เป็นภาพยนตร์ที่รวบรวมนักแสดงหน้าใหม่ของค่ายวายุฟิล์มมาไว้เยอะที่สุดกว่า 10 ชีวิต ที่โดดเด่นและน่าจับตามองมากที่สุดคือน้อง "อ๊อฟชั่น-ถิรติกร กองคำ" ที่น่าจะขึ้นมาเป็นพระเอกคนใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทยได้ไม่ยากจากการแสดงบทบาทที่ค่อนข้างยากในหนังเรื่องนี้