ใกล้จะเข้าฉายวันที่ 30 ธันวาคมนี้แล้ว สำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อิงประวัติศาสตร์ที่ได้รับการเล่าขานและเทิดทูนมาจนปัจจุบันถึงนายท้ายผู้ซื่อสัตย์และเต็มเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ จากผลงานการกำกับของท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล นำแสดงโดย พันโทวันชนะ สวัสดี, เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์, มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย, สรพงษ์ ชาตรี, นิรุตติ์ ศิริจรรยา, เสนาลิง สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ และยังร่วมด้วยนักแสดงอีกคับคั่งนอกจากนี้ ทีมงานหนังดีดอทคอม ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักแสดงนำของเรื่องอย่าง เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ ซึ่งจะมาเปิดเผยถึงรายละเอียดของการแสดงหนังเรื่องแรกมาให้เราฟังกันครับ
Q: แนะนำตัวเองด้วยครับ
เต้ย: สวัสดีครับ ผม เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ครับ
Q: รับบทเป็นใคร?
เต้ย: จากภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ครับ รับบทเป็น สิน หรือ พันท้ายนรสิงห์
Q: "สิน" ในภาพยนตร์เป็นอย่างไรบ้าง?
เต้ย: พันท้ายนรสิงห์ครับ ก็จากที่ทุกคนเคยเรียนมาตอนเด็ก ก็แทบจะ คือ ตัวแทนของเรื่องความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ต่อชาติ ต่อแผ่นดิน แล้วก็ความรักเดียวใจเดียว ระหว่างสินกับนวล ก็จะเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมา ตั้งแต่พันท้าย ตั้งแต่เป็นสินเลย ยังไม่ได้รับราชการเป็นพันท้าย ตั้งแต่สินยังจีบนวลใหม่ๆ เลย ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ พลิกผันทุกอย่างเลยเข้าไปรับราชการเป็น พันท้ายนรสิงห์ แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่จะลอบปลงพระชนม์พระเจ้าเสือนั่นเอง ตามที่ทุกคนเคยเรียนมาครับ
Q: ฉากไคล์แมกซ์ของเต้ยคือตอนไหน?
เต้ย: ฉากไคล์แมกซ์นะครับ ก็จะเป็นฉากสุดท้ายตามที่ทุกคนเคยเรียนมาก็คือ ฉากประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งฉากนี้มันเป็นฉากที่ตัวพันท้ายเองก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเราคัดท้ายเรือไปทางคลองโคกขาม ถ้าเลยโค้งนี้ไปจะมีคนมาลอบปลงพระชนม์พระเจ้าเสือ เราก็เลยตัดสินใจหักท้ายเรือไปชนกิ่งไม้ทำให้หัก ตามกฏบทพระอัยการก็คือ ใครที่คัดท้ายเรือหัก ก็คือผู้นั้นมีโทษประหารชีวิต ก็พระเจ้าเสือก็เลย ด้วยความสนิทสนมแล้วก็ความเป็นเพื่อน เคยกรีดเลือดสาบานกัน พระเจ้าเสือก็เลยห้าม ว่าอย่าประหารชีวิตสิน ว่าจะปั้นหุ่นขี้ฝึ้งมาแล้วก็ประหาร แต่ว่าสินไม่ยอม ก็คือ ถ้าพระเจ้าเสือไม่ประหารชีวิต ชื่อของพันท้ายนรสิงห์ก็จะถูกจดจำไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ว่าเป็นคนที่แหกกฏ ไม่เคารพกฏบ้านกฏเมือง คือ ตัวพันท้ายเองก็ไม่อยากให้เอาเป็นแบบอย่าง และรุ่นลูก รุ่นหลานของพันท้ายนรสิงห์ก็จะถูกตรีหน้า ตรีตราว่าเป็นคนไม่ดี พันท้ายนรสิงห์ก็เลยไม่ยอม เลยอยากให้พระเจ้าเสือประหารชีวิต
Q: มีการเตรียมตัวในการแสดงอย่างไรบ้างครับ?
เต้ย: ภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของผมเลย ถ่ายพร้อมๆ กับคุณชายรัชชานนท์ ก็คือ บักจ่อยนั่นเอง ที่ทุกคนรู้จัก คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมต้องฝึกหนักมากๆ เลย คือ เราต้องไป เริ่มเรียนตั้งแต่ขี่ม้า ฟันดาบ ต่อยมวย แล้วก็มีเป่าขลุ่ย แล้วก็พายเรือ แล้วก็คัดท้ายเรือพระราชทานอีก เป็นอะไรที่แบบยากมาก หินมาก และไหนจะเรื่องไดอะล็อกอีก การเล่นเรื่องแรก ซึ่งมาเจอภาพยนตร์แนวพีเรียดด้วย ต้องมาเจอเรื่องภาษา ภาษาที่กลับไปกลับมา สำนวน ราชาศัพท์ การร้องเพลงฉ่อย ต้องทำการบ้านหนักเลยทีเดียว
ถ้าเป็นคุณเป็นนักแสดงใหม่ แล้วมาเจอกับนักแสดงรอบตัวเป็นนักแสดงที่ฝีมือทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น อาเอก สรพงษ์ อาหนิง นิรุตติ์ ผู้พันเบิร์ด พี่ลิง พี่กบ นักแสดงที่มากฝีมืออีกคับคั่งมากๆ เลยครับในเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเราต้องทำการบ้านหนักมากๆ แล้วก็ทำความเข้าใจ ซึ่งตอนนั้นก็กดดันมากๆ เลย ยอมรับว่ากดดันมากๆ คือ เราเข้าไปในฉาก ทุกคนจะรอเราอยู่คนเดียวไม่ได้ ซึ่งทุกคนเขามาพร้อมอยู่แล้ว เป็นนักแสดงที่มากฝีมือ ซึ่งเรามีคนเดียวที่ยังใหม่อยู่เลย เราต้องทำการบ้านไปให้หนัก ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ต้องถาม ถามท่านมุ้ยเลย แต่โชคดีครับที่ท่านมุ้ยเป็นคนที่เข้าใจนักแสดง ท่านมุ้ยเป็นคนที่ถ้าเห็นนักแสดงยังไม่ได้ ยังไม่เข้าใจ ท่านก็จะหยุดกองเลย แล้วท่านก็จะออกมานั่งปรับความเข้าใจใหม่ อธิบาย ท่านมุ้ยเป็นคนดี เป็นผู้กำกับที่ดีอย่างนึงคือ ท่านมุ้ยเข้าใจนักแสดงมากๆ คือ ตอนเที่ยง ซึ่งผู้กำกับคนอื่นเขาก็จะปล่อยนักแสดงไปกินข้าว กินใครกินมัน แต่ท่านมุ้ยจะให้นักแสดงมารวมตัวกินข้าวด้วยกัน เพื่อให้นักแสดงมีความสนิทสนมกันแล้วก็เพื่อให้สนิทกับผู้กำกับด้วย ผู้กำกับก็จะเข้าใจในตัวละคร ป้อนตัวละคร ให้เราซึมซับเป็นตัวละครให้ได้มากที่สุด ท่านก็จะพูดถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในระหว่างกินข้าวไปด้วย เลยทำให้เราเป็นตัวละคร เป็นพันท้ายได้เร็วขึ้นครับ
Q: ชีวิตในกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้างครับ?
เต้ย: เรื่องการออกกองหรอครับ ชีวิตอยู่ในกองต้องบอกได้เลยครับ เรื่องนี้เท้าเปล่าครับ ซึ่งเราจะเจอหนาม เหยียบหนามกันเป็นประจำเลยครับ เหยียบหนาม เหยียบเศษแก้ว ต้องไปฉีดยากันบาดทะยักกันกระจายเลย ไหนจะยุงอีก ไหนจะต้องคอยระวังงูอีก เพราะเราต้องถ่ายในป่าด้วย ในป่านี่มีสัตว์มีพิษมากมาย บางทีก็เจอตะขาบตัวใหญ่ๆ เราก็ต้องเลี่ยง แต่เราก็ไม่ได้ไปฆ่าเขานะ เราก็ปล่อยเขาเดินตามของเขาไป แล้วก็ยุง สำคัญมากๆ เลย ถ่ายซีนกลางคืนนี่ เจอยุงกระจายเลยครับ ยุงเยอะมาก เราก็ต้องมียากันยุงครับ มีเต้นท์สำหรับนักแสดงคอยให้นักแสดงได้พักอะไรแบบนี้ด้วยครับ
Q: สุดท้ายอยากให้เชิญชวนไปชมภาพยนตร์?
เต้ย: อยากให้คนไทยทุกคนนะครับ มาดูภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ เพราะว่าเราทุกคนเคยอาจจะเรียนมาแล้วว่า พันท้ายนรสิงห์เป็นยังไง จบยังไง แต่ว่าครั้งนี้ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้เอามาทำในรูปแบบภาพยนตร์ เราจะได้เห็นในแบบฟิล์ม ที่แบบอลังการและก็สวยงามมาก ซึ่งเราใช้เวลาการถ่ายทำในระยะเวลาที่นานมาก และก็ได้นักแสดงที่มีฝีมือคับคั่งรุ่นใหญ่ อาเอก สรพงษ์ อาหนิง นิรุตติ์ ผู้พันเบิร์ด สุดยอดมากๆ และก็นางเอกของผมก็คือ มัดหมี่ พิมดาว ด้วย และก็อยากให้มาดูเพราะว่าท่านมุ้ยใส่เรื่องราว ประเพณีไทย ขนบธรรมเนียมไทย และก็ความรักระหว่างกษัตริย์กับประชาชน ความรักระหว่างคู่บ่าว-สาว คู่หนึ่งที่จริงใจ ก็คือ สินกับนวลนั่นเอง ความรักที่บริสุทธิ์เป็นยังไง และความรักกับเพื่อนเป็นยังไง และความรักกับสถาบันครอบครัวเป็นยังไง และท่านมุ้ยใส่สอดแทรกไป เรื่องราวที่คนไทยอาจจะลืมไป เรื่องของการซื่อสัตย์และการเคารพกฏระเบียบของบ้านเมือง ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่อาจจะลืมไปว่า คนสมัยก่อนเขายอมถวายชีวิตของตัวเองเพื่อความถูกต้องของกฏระเบียบบ้านเมือง และเพื่อกษัตริย์ที่ตนรัก และเพื่อแผ่นดิน และเพื่อคนรักด้วยครับ ยังไงก็อยากให้คนไทยมาดูนะครับ เพราะว่าแค่ตั๋วแค่ไม่กี่ร้อยบาทกับทุนสร้างหลายร้อยล้านบาทครับ ผมคิดว่ามันคุ้มแน่นอนครับ ยังไงก็พลาดไม่ได้ครับ 30 ธันวาคมนี้ครับ ทุกโรงภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์