ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > ข่าวดาราไทย

สัมภาษณ์พิเศษ ธีรธร เชาวนโยธิน ผู้กำกับ บ้านขังวิญญาณ

1 เม.ย. 2557 10:04 น. | เปิดอ่าน 1559 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

เพราะบ้านเป็นสิ่งใกล้ตัว ความใฝ่ฝันของคนทำงานทุกคนอยากจะมีบ้าน คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่าบ้านที่คุณซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ด้วยเงินที่คุณเก็บสะสมมาทั้งหมด ด้วยความคาดหวังในความสุขที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของคุณต้องมาพังทลายลง เพราะสิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น เมื่อคุณพบว่าบ้านของคุณมี…ผี!!! จึงมาเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ธีรธร เชาวนโยธิน ที่มีชื่อเรื่องว่า บ้านขังวิญญาณ ภาพยนตร์แนวสยองขัวญ ที่กำลังจะเข้าฉาย 17 เมษายนนี้ 

เล่าที่มาก่อนหน้าจะมาจับงานด้านภาพยนตร์ 
“ทำงานอยู่ในสายการทำซีจีมา 10 ปีโดยเปิด บริษัท ไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอ มาได้ประมาณ 6-7 ปี ทำซีจีให้กับหนังหลายๆเรื่องให้กับทางไฟว์สตาร์ สหมงคลฟิล์ม พระนครฟิล์ม อย่างเรื่อง หอแต๋วแตก ลองของ ลางหลอกหลอน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อคน” 

เหตุผลที่ทำภาพยนตร์ 
“ทำหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของบริษัท เพราะเราพร้อมทุกสิ่งอย่าง เรามีอะไรหลายๆอย่างที่พร้อมจะทำหนัง ก็เลยตัดสินใจว่าสร้างหนังดีกว่า ผมรักในการสร้างหนัง รักในการสร้างภาพยนตร์ มันเป็นศิลปะหลายๆแขนงมารวมกัน ในเรื่องของภาพ ในเรื่องขององค์ประกอบเสียง ต้องใช้ทั้งหมดทั้งภาพ ทั้งเสียง ทั้งความรู้สึก ทำให้เกิดเป็นหนังหนึ่งเรื่อง มันเป็นศิลปะ คือพื้นฐานผมจบมาทางศิลปะ คือผมจบเซรามิค ของ ศิลปากร พื้นฐานมาทางอาร์ทอยู่แล้ว ก็เลยมีความรู้สึกว่าวันนี้พร้อมทุกสิ่งอย่างแล้ว ทุกอย่างได้เวลาประจวบเหมาะแล้วมาถึงจุดนี้แล้ว คิดว่าตัวเองน่าจะปรับมาเป็นหนังได้แล้ว” 

การสร้างหนังยังเป็นเรื่องที่เสี่ยงอยู่ 
ผมมองทุกอย่าง ทำหนังก็อยากได้ตังค์ แล้วก็หนังเองก็อยากให้มีคุณภาพและคุณค่าแล้วสามารถมีรายได้เพื่อพัฒนาต่อ แล้วสร้างหนังต่อๆไป อยากให้โตเป็นค่ายหนังต่อๆไปในวันข้างหน้า ผมสร้างหนังและจัดจำหน่ายเอง ก็อยากเป็นค่ายๆหนึ่งที่อยู่ในเมืองไทย 

ทำไมไม่ส่งหนังให้สตูดิโอใหญ่ๆเป็นนายทุนหรือจัดจำหน่ายให้ 
ด้วยผมมีไอเดียในการทำหนังที่อยากจะให้เป็นเอกลักษณ์ของเรา อยากสร้างคาแร็กเตอร์ของเราเองและคงคาแร็กเตอร์ของเราไว้ ผมมีฝันที่อยากสร้างหนังในหลายๆเรื่องหลายๆแนว 

วางแผนงานบริษัทไว้ยังไงบ้าง 
ก็อยากให้ปีหนึ่งสร้างหนังให้ได้สัก 3 เรื่องในช่วงแรกๆแต่ปีนี้ได้สักเรื่อง 2 เรื่องก่อนสำหรับค่ายใหม่ๆ 

ในฐานะผู้กำกับหนังใหญ่ครั้งแรก ผลงานหนังเรื่องแรกของบริษัท รู้สึกอย่างไร 
มีความเครียดเล็กน้อยแต่ไม่ได้มากมายอะไร เพราะผมมั่นใจว่าทำได้ ก็ทำเต็มที่ให้ดีที่สุด 

ทำไมเลือกประเดิมสร้างด้วยเรื่อง My House บ้านขังวิญญาณ 
ผมมีความรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งใกล้ตัวทุกคน ความใฝ่ฝันของคนทำงานทุกคนอยากจะมีบ้าน แล้วสิ่งที่จะได้มาในแต่ละคนอาจจะไม่ได้ดูก่อนว่า อาจจะถูกเกินไปหรือเปล่า ไม่ได้คิดให้ดี ทุกคนพอมีความฝันอยากได้อะไรสักอย่าง ได้มาด้วยความง่าย ได้มาด้วยราคาถูก จนทำให้ลืมการคิดไปว่าสิ่งที่จะตามมาคืออะไร เพราะเราอยู่ในความเป็นคนไทย เราจะมีลักษณะเชื่อในสิ่งลี้ลับและวิญญาณ เพราะฉะนั้นการจะซื้อบ้านหรือซื้อรถมันจะต้องคิดให้เยอะกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยอะไรง่ายๆ มันใกล้ตัวครับ ก็เลยอยากให้คนเห็นของใกล้ตัวเนี่ย มีความคิดสักนิดหนึ่งก่อนจะซื้อหรือตัดสินใจครับ 

แนวของหนังเรื่องนี้ 
มันเป็นหนังผีครับ แต่หนังผีของผมที่ใส่เข้าไป ไม่ได้ออกมาเหวอะอะไรเยอะๆ เป็นลักษณะของคนที่มีเซ้นต์แล้วเห็นผี ผมอยากให้คนเห็นผีในรูปแบบอีกรูปแบบหนึ่ง ผีที่ออกมาในหนังของเรา จะไม่เหมือนผีปกติ หนังจะสะดุ้งในช่วงแรกๆเพราะเราเน้นเรื่องของเสียง เพราะหนังคือการรวมศิลปะทุกแขนง ผมก็เลยกระจายความสนุกไปอยู่ในเรื่องของเสียงด้วย เรื่องของภาพด้วย ความสยองก็จะมีบ้างก็เป็นหนัง Horror แล้วก็มีขำๆบ้าง 

ถ้าเทียบเคียงกับหนังเรื่องอื่นก็อาจจะนึกถึงเรื่อง ลัดดาแลนด์ 
ไม่เหมือนเลยครับ สิ่งที่เหมือนคือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้าน เรื่องของบ้านเท่านั้นที่เหมือนกัน แต่นอกนั้นเนื้อหาไม่เหมือนเลยครับ 

กังวลไหมที่อาจจะถูกเปรียบเทียบกับ ลัดดาแลนด์ 
ผมไม่กังวล รู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่มีคนไปเปรียบกับหนังที่ทำเงินได้ เพราะฉะนั้นถ้าได้ไปดูแล้วบอกเหมือน ก็คือในลักษณะที่ว่าเราทำได้นะ แต่ถ้าเข้าไปดูแล้วบอกมีความแตกต่างมันก็น่าจะลองไปดูกันนะเพราะมีสิ่งที่แตกต่าง ไม่ได้เหมือนเลยนะ ก็อยากให้ลองเข้าไปดูกันว่าที่ว่าเหมือน เหมือนตรงไหน ไม่เหมือนเนี่ยไม่เหมือนยังไง แต่ที้เหมือนเท่าที่ผมเห็นก็แค่เรื่องของบ้านเท่านั้นเอง เพราะเนื้อหาของเรื่องนี้ผมได้ข้อมูลจากของจริงที่มีคนพูดถึงกันอยู่ เป็นเรืองเล่าจากเรื่องจริงครับ 

เรื่องจริงที่ว่าคือ 
เรื่องนี้เรื่องจริงเป็นเรื่องจริงที่เกิดในหมู่บ้านๆหนึ่งที่มีการตายเป็น 4 layer เหมือนกันแล้วผมเอามาปรับและแต่งให้มันดูเป็นลุคของหนังอีกนิดหนึ่งให้มันน่าสนใจขึ้น เป็นเรื่องของคนที่มาซื้อบ้านแล้วไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีใครอยู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วในแต่ละครั้งก็มีคนตายในแต่ละเลเยอร์ๆในแต่ละรุ่นของบ้าน บ้านที่ 1 ตายมีคนมาซื้อต่อก็ตาย บ้านที่ 3 ก็ตาย จนกระทั่งถึงตัวละครที่ผมวางไว้

 

 

เป็นบ้านชุมนุมผีหรือตู่ขนานกันไปในแต่ละยุต 
เป็นเรื่องเล่าของคนข้างบ้านมาเล่าให้ฟัง เพราะเขาไม่รู้เลย เพราะเขาอยากจะสร้างครอบครัวเขาก็เลยซื้อบ้านหลังนี้ ไม่รู้ประวัติบ้านหลังนี้มาก่อน ก็มีคนมาอธิบายให้ฟัง แล้วภาพก็จะย้อน เหมือนกับซ้อนขึ้นมาเรื่อยๆเหมือนกับบ้านที่ 1 ตายยังไง ทั้งหมดที่เข้ามาตาย ตายเพราะอะไร ก็จะมีให้เห็นว่าสาเหตุมันมาจากอะไร 

โดยสรุปความสนุกของหนังอยู่ตรงไหน 
ความสนุกที่ผมมองคือ การได้คิดไปกับหนัง การได้ตามคาแร็กเตอร์ของหนัง หนังเขาเดินอย่างนี้ ผมพยายามให้คนดูมีส่วนร่วมในการดูหนังเรื่องนี้ก็คือ ดูแล้วก็คิดไปด้วยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง มันมาได้ยังไงแล้วทั้งหมดมันรวมมาได้ยังไงถึงเป็นหนังตรงนี้

 

 

พูดถึงนักแสดงที่มาร่วมงานอย่าง กอฟ อัครา 
พี่กอฟเนี่ยเป็นนักแสดงคุณภาพที่ผมมองเห็นจากการได้ดูหนังที่เขาเล่นมาหลายเรื่อง แล้วเวลาทำงานพี่เขาทุ่มเทและตั้งใจ แล้วอยู่ในกองถ่ายพี่เขาช่วยได้หลายอย่างมาก ช่วยแม้กระทั่งมาปรับบทกัน อย่างนี่น่ะ พี่ว่าอย่างนี้จะดีกว่าอันนั้นจะดีขึ้น แล้วผมเองก็ไม่ได้ปิดกั้นใครทั้งนั้น ผมชอบที่จะแชร์ไอเดียกัน พี่กอล์ฟก็เลยเป็นหนึ่งในผู้ที่มาเติมเต็มฝันของผมให้วันนี้ให้ผมรู้สึกว่าได้มาทำงานที่ใจผมรัก 

แล้วนางเอกน้อง แป้ง กมลนภัช 
ส่วนน้องแป้ง ก็ทำงานร่วมกันมาหลายๆงานเล็กๆน้อยๆมาเรื่อยๆจากวันแรกที่ผมเริ่มต้น เราก็บอกเราจะโตไปด้วยกัน เราจะทำงานคุณภาพด้วยกัน ก็มีการเรียนการแสดงเพิ่มเติม ก็ไปเรียนกันเพื่อให้เขาอินกับบท เพราะอยากให้เรื่องนี้ได้คุณภาพ น้องเขาก็เต็มที่ เรียนเป็นเรียน ทำเป็นทำ เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ 

น้องแป้งก็มีคาแร็กเตอร์ใกล้เคียงกับนางเอกในเรื่อง ก็มีความรู้สึกว่าน้องเขาใช่ เขามีอะไรที่แสดงแล้วดูอบอุ่นเหมือนแม่ได้ เป็นพี่สาวได้คือเป็นทุกสิ่งอย่างที่คาแร็กเตอร์ควรเป็นได้ ก็โดนที่เขา ก็เลยเลือกเขามาเล่น

 

 

นักแสดงคนอื่นๆ 
ส่วนน้องยอร์ก (ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์) เผอิญคาแร็กเตอร์นี้ต้องการเด็กผู้ชายที่แบบว่าเป็นผี น้องเขานิ่งได้ เพราะเด็กส่วนใหญ่หาคนที่นิ่งยาก เลยถูกใจน้อง ส่วน น้องใยไหม (ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ) ก็มองว่าน้องเขาเป็นตัวเดินเรื่องได้ มีความสามารถในตัว อนเนอร์เขาออก ก็แคสต์เด็กหลายคนเหมือนกันครับ เด็กแต่ละคนก็มีคาแร็กเตอร์เขาเอง แต่ส่วนของน้องสามารถปรับตัวเข้ากับบทได้ เหมาะที่จะเป็นนักแสดงในความคิดของผม เขาเป็นอะไรก็ได้ถ้าเขาได้ศึกษา เขาได้ทำ 

พูดถึงเพลงประกอบหนัง 
เพลงหนักใจ ของ พี่ป้อม ออโต้บาห์น (อัลบั้ม ผู้ชายสีน้ำทะเล ป้อมออโตบาห์นและเพื่อน) ครั้งแรกที่ผมได้ยินเพลงนี้ มันมีอะไรลึกๆมากกว่าที่เห็นในตัวโน๊ต ตัวหนังสือ ที่เห็นอยู่ข้างหน้าผิวเผิน พอฟังลึกๆเข้าไปแล้วมองภาพที่ถ่ายมาทั้งหมดเนี่ย จริงแล้วเพลงนี้สามารถอินเข้ากับคนดูได้ แล้วข้างในมันออกมาได้หมดเลยจากเนื้อหาของเขา เพลงนี้ที่พี่ป้อมร้องไว้จะเร็วกว่านี้ ปกติคนอื่นเวลารีคอฟเวอร์จะให้คนอื่นร้องแต่ผมอยากให้พี่ป้อมร้อง พี่ป้อมมีช่วงเวลากรเดินทางชีวิตเขามา จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 20 ปีเขามีความเปลี่ยน เขามีความหนักแน่น เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก พลังจะออกมาจากตรงนั้น ผมก็อยากให้พี่ป้อมเขาร้องโดยที่ยืดให้เพลงช้าลงแล้วให้สุขุมแล้วแน่นขึ้น กินใจให้เยอะขึ้น พอฟังเวอร์ชั่นนี้ออกมาจะเศร้าขึ้นเรื่อยๆ 

คุยกับพี่ป้อมยังไง 
ก็บอกพี่เขา ชอบพี่จังเลยดูเหมือนหมอผี ก็ขอพี่ป้อมมาเล่นให้ก่อน เล่นในหนังเรานิดหนึ่ง ก็เป็นเรื่องแรกของพี่ป้อมเลยที่เล่นหนัง ก็เดินดิ่งๆไปหาเขา พี่ป้อมครับอย่างโน้นอย่างนี้ เล่นให้ผมหน่อยผมชอบพี่ แล้ว เล่นเป็นอะไร เล่นเป็นหมอผี เพราะบุคลิกพี่ป้อมผมมองว่าเป็นเหมือนหมอผี เพราะผมเขาจะยาว มีมวยผม คาแร็กเตอร์นี่ไม่ต้องทำเลยแค่ใส่เสื้อขาวมา แต่ต้องไปดูกันเองว่าเป็นหมอผี ปราบได้หรือเปล่า 

ฝากถึงคนดูหนัง 
ก็อยากให้ทุกคนกลับมาดูหนัง พักผ่อนกันได้แล้ว หันมาดูหนังมาบันเทิงกันบ้างดีกว่า แล้วหนังเรื่องนี้ผมทำด้วยใจ ทำเต็มที่ ทำเกินร้อย ดีไม่ดีตอนนี้ก็ขึ้นอยุ๋กับผู้ชมแล้วครับ ให้ผู้ชมมาดูกันนิดนึง มาตัดสิน ดีไหม หรือ ไม่ดียังไง เพื่อผมจะได้แก้ไขได้ในหนังเรื่องต่อไปเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมแล้วกันในการเดินหน้าต่อไป

 

: บ้านขังวิญญาณ, ธีรธร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง " บ้านขังวิญญาณ "
  • คาแรคเตอร์นักแสดง My House บ้านขังวัญญาณ
  • "กอฟ-อัครา" กับ บทบาทใหม่ที่ไม่ซ้ำ ในภาพยนตร์ชวนหลอน “บ้านขังวิญญาณ”
  • "ตุ๊กตา อุบลวรรณ" ปัดฝุ่นงานแสดงลงหนัง "My House บ้านขังวิญญาณ"
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :