สร้างความฮือฮาสนั่นยูทูป หลังจากที่ ค่ายอกาลิโก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ปล่อยหนังตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง “ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” เวอร์ชั่นสมบูรณ์แบบลงในยูทูป ที่ก่อให้เกิดกระแสตอบรับเป็น 2 ทาง  ทางหนึ่งกลุ่มผู้ใหญ่ และกลุ่มที่เคารพนับถือศรัทธา สมเด็จพุฒาจารย์  (โต) พรหมรังสี อยู่แล้ว ต่างชื่นชมว่า หนังตัวอย่างดูเข้มขลังชวนศรัทธาน่าดูมากมาย  ขณะที่กลุ่มผู้ที่มิได้รู้จัก สมเด็จโตฯ มากมายนัก ก็จะมองว่า ดูเป็น “หนังพระ”      ที่เนื้อหาอาจเคร่งเครียดจริงจัง

สมเกียรติ เรือนประภัสสร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเปิดใจต่อข้อกังขาของหนังเรื่องนี้ที่ได้รับมา         

“ถ้าคุณผู้ชมคิดว่าหนังเรื่อง “ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” เป็นหนังซีเรียสเครียดจริงจัง ขอบอกว่า   ท่านคิดผิดมากๆครับ  ด้วยว่าถึงว่า ท่านสมเด็จพุฒาจารย์โตฯ ท่านจะเป็น พระอริยะสงฆ์ ที่มหาชนให้ความเคารพศรัทธากันอย่างกว้างขวาง  แต่เรื่องราวชีวิตของท่านมิได้เครียด จริงจัง หนักอึ้ง แต่อย่างใด      จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลประวัติของท่านมา  เราพบว่า ชีวิตของท่านมีสีสันมาก หลากหลายอรรถรส มาก และนั่นคือ    เหตุผลที่ผมเลือกนำเอาอัตตะชีวประวัติของท่านมาสร้างเป็นภาพยนตร์”

“ชีวิตของท่านเหมือนแบ่งได้เป็นแบ่ง องก์ ดังนี้  องก์แรก ว่าด้วยชีวิตวัยเด็ก เด็กชายโต(ด.ช.ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์)  ท่านก็เป็นเหมือนเด็กเล็กทั่วไปที่รักสนุก วิ่งเล่น ซน กับเพื่อนร่วมรุ่นตามประสาเด็ก แต่ที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นคือ ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น มีเมตตา ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ ท่านฉายแววในการเป็น     คนที่มีหัวใจใฝ่เรียนรู้ ท่านร่ำร้องจะเรียนหนังสือ  จนมารดาต้องพาไปฝากเรียนกับหลวงตาแก้ว ที่เป็นเหมือนครูคนแรกของท่าน     ชีวิตในช่วงนี้ น้องเพชร ที่รับบท เด็กชายโต เป็นหน้าใหม่ ไม่เคยแสดงอะไรมาก่อน เล่นได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูด้วยธรรมชาติของเขา  ที่ผมมั่นใจว่าคุณผู้ชมจะหลงรักเขาแน่นอน”

“องก์สอง ช่วงสามเณร  เมื่อโตอายุครบบวชเณร ท่านก็ตัดสินใจมุ่งที่จะบวชเป็นสามเณรอย่างจริงจัง   แม้ว่ามารดาจะยังรัก เป็นห่วง อยากให้อยู่ใกล้ๆ แต่ท่านก็ยืนยันชัดเจนว่าต้องการจะบวชเรียน จนโยมแม่ต้องยอมตามใจ ซึ่งหลังจากที่ท่านพบความจริงว่า ท่านไม่ใช่ลูกของพ่อที่เลี้ยงดูท่านมา ท่านก็ขอลาบวชเรียนและไม่สึกอีกเลย       ชีวิตในช่วงวัยรุ่นของท่านจึงออกแนวดรามาเข้มข้นเรียกน้ำตา สะท้อนความรักของ แม่กับลูก  พ่อกับลูก ที่ชวนประทับใจ    ในช่วงนี้ น้องเพลง(เจษฏาพร ชมศรี)  ที่รับบท สามเณรโต ก็เล่นบทดรามาได้เยี่ยม ทั้งที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่   เพิ่งแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกเช่นกัน จับตาไว้ให้ดี เด็กคนนี้จะเป็นนักแสดงเจ้าบทบาท เป็นพระเอกเจ้าน้ำตา ต่อไปในอนาคต รับรองว่าคุณจะเสียน้ำตาให้กับเขาอย่างแน่นอน เตรียมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ได้เลยครับ”

 “องก์สาม ในช่วงวัยหนุ่ม จาก สามเณร ท่านบวชต่อเป็น พระโต (น้ำแข็ง – ปรัชญา ประทุมเดช) ถ้าช่วง สามเณร คือช่วงที่ท่านเรียนภาคทฤษฏี  ช่วงพระโต ก็เป็นเหมือนช่วงที่ท่านออกศึกษา ภาคปฏิบัติ เมื่อท่านออกธุดงค์    กับอาจารย์อีกคนคือ ขรัวตาแสง ในช่วงนี้พระโต ต้องออกเดินป่า เรียนรู้วิชาอาคมต่างๆจากขรัวตาแสง ต้องเดินป่าผจญความยากลำบาก เจอ เสือ ช้าง ฝนตก แดดเปรี้ยง บาดเจ็บถึงเลือดเนื้อ  ได้เรียนรู้วิชาปาฏิหาริย์ เช่น วิชา ย่นระยะทาง ที่คนที่ศึกษาเรื่องราวของท่านมาอย่างดี จะรู้ว่าท่านเลื่องลือในเรื่องวิชานี้  ช่วงนี้จึงเป็นเหมือน หนังผจญภัย แฟนตาซี ขณะเดียวกันท่านก็เรียนรู้เรื่องชีวิตทางโลกย์ ผ่านเรื่องราวความรักของตัวละคร3คน คือ มาลัย(วิภาวี เวชวงศ์วาน),พัด(กวีวัฒน์ คานน์),ช้อย(กาญจณี ดอกไม้ขาว)  ที่ก่อเรื่องราว รักสามเส้า  ที่ทำให้ท่านเข้าใจและตระหนักถึงเรื่องสัจธรรมทางโลกย์ จนเป็นที่มาของวรรคทองที่ว่า “เรื่องโลกีย์วิสัย รัก...ฉันไม่พูด ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์เที่ยงแท้นัก แม้สมหวัง ก็ยังเป็นทุกข์ว่า สักวันอาจ...สิ้นรัก”  น้ำแข็ง ปรัชญา ที่รับบท ขรัวโต ก็เป็นนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่หล่อขึ้นกล้องมาก ผมเชื่อว่าสาวแท้ สาวเทียมจะหลงรักเขากันแน่นอน”

“มาถึงช่วงปัจฉิมวัยของ ขรัวโต  รับบทโดย พี่ต้อย เศรษฐา ในชีวิตจริง ขรัวโต  ท่านไม่ได้เป็นพระที่เคร่งเครียด ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ท่านนำธรรมะมาสอนประชาชนด้วยถ้อยคำที่ฟังง่ายๆ แต่คมคาย แฝงปรัชญาธรรมะ และ อารมณ์ขัน ซึ่งชั้นเชิงการสอนธรรมะผสมอารมณ์ขัน ถือเป็นชั้นเชิงในการสอนที่ท่านนำมาใช้ก่อนใคร ก่อนที่พระหลายรูปทุกวันนี้นำมาใช้อย่างได้ผล   ในช่วงนี้ พี่ต้อย เศรษฐา ก็มารับบทในช่วงนี้ได้อย่างสมบทบาท ซึ่งใกล้เคียงกับคาแรคเตอร์ตัวจริงของอาต้อยมาก พี่ต้อย ช่วยเติมอารมณ์ขันให้กับบทนี้อย่างพอดิบพอดีมีรสนิยม ไม่มากไม่น้อยเกินไป   ถือว่าผมเลือกมาได้ไม่ผิดหวังจริงๆ  ในองก์นี้จึงเป็นเหมือน หนังดรามา คอมเมดี้   ที่ดูกันอย่างสบายใจให้แง่คิด ซึ่งการที่ก่อนแสดง อาต้อยเสนอตัวบวชเอง โดยบินไปบวชถึงประเทศอินเดีย นั่นแสดงให้เห็นว่าท่านตั้งใจทุ่มเทมากแค่ไหน”    

“เหล่านี้ดังกล่าวมา เมื่อนำมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน  จึงกลายเป็นภาพยนตร์ที่ครบรสทั้ง รัก โศก ตลก บู๊ แฟนตาซี  อันเป็นอรรถรสที่คนดูหนังไทยคุ้นเคย  ผมเคยสร้างละครให้ช่อง7 ปรุงรสละครจนฮิตเรตติ้งกระฉูดสูงสุดต่อเนื่องกันหลายเรื่อง ชนิดที่ยังไม่มีใครทำลายสถิติได้ เป็นปรากฏการณ์ของช่อง7 ระดับ ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ มาแล้ว อย่างเรื่อง สะใภ้ปฏิวัติ,ลูกสาวกำนัน ฯลฯ  ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นว่า เมื่อมากำกับภาพยนตร์ด้วยตนเอง ผมก็จะเลือกปรุงรสภาพยนตร์เรื่องแรกของผมให้เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ชมในวงกว้างอย่างแน่นอนครับ”

ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ โครงการภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน โดย บริษัท อกาลิโก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด  ที่ปรึกษาภาพยนตร์ฝ่ายสงฆ์โดย สมเด็จพุฒาจารย์ (เกี่ยว) อุปเสโณ ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาสโดย  ครูฉลวย ศรีรัตนา,สมพงศ์ ตรีบุปผา   กำกับภาพยนตร์ – สมเกียรติ เรือนประภัสสร์ บทภาพยนตร์โดย อ.ศัลยา สุขะนิวัตติ์   

รับบท สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี แต่ละช่วงวัย โดย  เศรษฐา ศิระฉายา (ขรัวโต ช่วงปัจฉิมวัย), น้ำแข็ง – ปรัชญา ประทุมเดช (ขรัวโต วัยหนุ่ม), น้องเพลง – เจษฏาพร ชมศรี (สามเณรโต) และ น้องเพชร - ด.ช.ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์ (ด.ช.โต) พร้อมด้วย  เอิร์ท AF9 – บารมี ชำนาญกิจ(ต้น/เพชร)  และนักแสดงชื่อดัง อาทิ  ชุมพร เทพพิทักษ์,รุจิเรข พักตระเกษตริน,จีระศักดิ์ แสงโชติ,โกวิท วัฒนกุล,รัญ เมืองลพ,ธนายง ว่องตระกูล,การะเกด แสงไกร ฯลฯ ขอแนะนำนักแสดงหน้าใหม่ พลอย ไพลิน, วิภาวี เวชวงศ์วาน, รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน, ปกรณ์ เจตน์วิทยาชาญ, กวีวัฒน์ คานน์, กาญจณี ดอกไม้ขาว, คณาธิป เปียงใจ, ธนากร พันกาแด และนักแสดงอีกคับคั่ง

ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ ฉายจริงวันที่26 กุมภาพันธ์ 2558  ความรัก เมตตา บารมี จะแผ่พลังศรัทธาพร้อมกันทั่วแผ่นดินสยาม