กระแสแรงต่อเนื่อง ปากต่อปากถึงคุณภาพงานสร้างและความสนุกมันส์สะใจของ "เสือ" ภาพยนตร์มหากาพย์แอ็กชันบันเทิงศิลป์ส่งท้ายปีจาก "สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล" โดยผู้กำกับเจ้าพ่อโปรเจกต์ยักษ์ "ก้องเกียรติ โขมศิริ" ที่ผนึกกำลัง "4 เสือโคตรเท่" จาก "จักรวาลขุนพันธ์" พร้อมทั้งอาวุธ อาคม คารม แอ็กชัน และมุกฮาแบบใส่กันสุด ไม่ต้องหยุดหายใจ ประกาศศักดาหนังไทย สุดสัปดาห์แรกเดินหน้าสู่ 50 ล้านบาททั่วประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากจะเป็นผลงานที่ทุ่มทุน ทุ่มเท ทุ่มสุดตัวจนถูกยกขึ้นแท่น "ภาพยนตร์ไทยแห่งปี" แล้ว สิ่งที่โดนใจแฟนหนังทุกเพศวัยจนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์อยู่ตอนนี้ก็คือ "คาถาอาคม" ของเสือแต่ละตัวในเรื่องที่งัดออกมาทั้งปะทะกันเองและต่อสู้กับศัตรูตลอดทั้งเรื่องที่ทำให้ผู้ชมจำได้ไม่ลืม และนำมาเล่นกันนอกโรง แถมทำคลิปท่องคาถาสาดอาคมกระหึ่มโซเชียลกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งคาถาของทั้ง 4 เสือต่างทรงอานุภาพและมีทีเด็ดเฉพาะตัว จดจำและนำไปใช้กันได้เลย รับรองความอินทุกคาถา

คาถาสยบทุกสิ่ง นิ่งแต่หนักหน่วงทุกดอกของ "เสือฝ้าย" (เวียร์ ศุกลวัฒน์) กับอาคม "ตวาดหิมพานต์ - วา โธ โน อะ มะ มะ วา วา" พนมมือท่องคาถาพร้อมกระทืบเท้าจนแผ่นดินสะเทือน กวาดศัตรูในรัศมีกระเด็นไกล สร้างความพินาศในพริบตา

"ทุกคนทราบกันดีว่าคาถาที่เสือฝ้ายใช้เป็นอาคมหลักคือ 'คาถาตวาดหิมพานต์ วา โธ โน อะ มะ มะ วา วา' กระทึบเท้าทุกคนก็ปลิวกันไปหมด ศัตรูหรือมิตรใครก็ตามที่เราต้องการให้โดนอาคมก็จะปลิวกระจัดกระจายกันหมด เป็นอาคมที่ทุกคนกลัว ใครก็ต้านไม่อยู่ จะเบาจะแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับการควบคุมของ 'เสือฝ้าย' เป็นได้ทั้งเกราะป้องกัน ได้ทั้งโจมตี ตอนเล่นผมก็เขินนะ ด้วยความที่ห่างจากการแสดงแนวแอ็กชันไปนานมาก แต่ถ้าเราเริ่มเชื่อในคาแร็กเตอร์นี้ มันก็จะไม่เขิน แถมรู้สึกว่ามันศักดิ์สิทธิ์จริงๆ"

คาถาโกงที่สุด โดนไม่ได้ ตายไม่เป็น กับอาคม "ลิงลม แคล้วคลาด - วิ วัง กัง หะ" ของ "เสือมเหศวร" (มาริโอ้ เมาเร่อ) เสือหล่อหน้าคมไอคิวเริ่ดจอมวางแผนที่แค่อมพระมเหศวรเอาไว้ก็รอดพ้นจากทุกภยันตราย ฟันไม่เข้า ยิงไม่โดน แถมมีวิชาลิงลม หลบหลีกว่องไวเกินมนุษย์เติมสกิลให้เทพขึ้นไปอีก

"ภายนอก 'เสือมเหศวร' จะดูนิ่งๆ แต่เป็นคนมีไหวพริบดี มีทักษะค่อนข้างเยอะหลากหลายสกิลหลบเลี่ยงคล่องแคล่วว่องไว มี 'คาถาแคล้วคลาด' ที่ต้องอมพระมเหศวรเวลาต่อสู้ ทำให้หลบหลีกหลบหนีอาวุธของคู่ต่อสู้ได้อย่างพลิ้วไหว มี 'วิชาลิงลม' ที่ทำให้เขาเป็นคนค่อนข้างว่องไวมาก และสามารถจะเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ตัวเองได้หลากหลายแบบไม่ซ้ำเดิม เชี่ยวชาญการปลอมตัว ประดิษฐ์อุปกรณ์การต่อสู้ อุปกรณ์ลับ ซ่อนกลไก ดัดแปลง พัฒนาต่อยอดสิ่งของได้ตลอด วางแผนก็เก่ง"

ตามมาด้วยกระแสเท่เกินจนน่าหมันไส้ของเสือเจ้าสำอางสุดกะล่อนอย่าง "เสือใบ" (เป้ อารักษ์) กับอาคม "กระสุนคต - นะ โม พุท ธา ยะ" เพียงร่ายมนตร์พร้อมยิงกระสุนคตลงอาคม ด้วยวิถีโค้งวิ่งไกลตามใจปรารถนา สู่การปลิดชีพทุกเป้าหมายในนัดเดียว แถมกระสุนวิ่งตรงกลับสู่รังเพลิงได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเปลืองแรง เอาเวลาไปหลีหญิงต่อได้อีก

"'เสือใบ' มีอาวุธกับอาคมเหมือนเดิมก็คือ 'กระสุนคต' ชักปืนเร็วออกมา ท่องวรรคทองของเสือใบ 'นะ โม พุท ธา ยะ' ในความจริงแล้วนะโมพุทธายะเป็นรากฐานของคาถาหลายคาถา เสือใบย่อออกมาสั้นๆ เป็นการรวมจิตเอาไว้ในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะปล่อยกระสุนคตออกไปพอเห็นเป้าหมายแล้วมันจะวิ่งไปทุกทางจนกว่าจะถึงเป้าหมายนั้น แต่ถ้าไม่เห็นเป้าหมายก็จะยิงไม่โดน อาคมกระสุนคตเป็นอาวุธที่โกงมาก แพ้ยากเหลือเกิน"

ปิดท้ายที่ MVP "เสือดำ" (โตโน่ ภาคิน) ที่มีพลังไม่ธรรมดากับอาคม "ซัดฝุ่นสลายอาวุธ - สารพัดศัตรู วินาศสันตุ" เสกฝุ่นทรายเข้าสลายได้ทุกอาวุธ พร้อมยันต์ธนูมือ ธนูเท้า เติมทุกหมัดให้หนักมันส์ทุกดอก เตะต่อยแต่ละทีมีแต่แตกกับตาย

"ภาคนี้เขากลับมาอย่างมีที่มาที่ไป เราจะได้เห็นว่า 'เสือดำ' ได้หมัดธนูมายังไง ตีนหนักเท้าหนักมาจากไหน มันได้ 'คาถาซัดฝุ่น' ที่สามารถจะเสกฝุ่นสลายอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ มีความเหนียวและคงกระพัน อาวุธหลักก็คือปืนคู่ลูกซองสั้น แล้วที่เติมเข้ามาคือสนับมือ เขาก็ยังเป็นเสือดำที่สู้ไม่ถอย ต่อยหนัก ในภาคนี้เราจะได้เห็นว่าเสือดำเป็นนักมวย สู้หมดไม่สนใครเพื่อความอยู่รอด"

ระเบิดความมันส์สะใจ ยกระดับคุณภาพหนังไทย สนุกโดนใจผู้ชมทุกเพศวัย "เสือ" กระหึ่มคาถา กึกก้องอาคม วันนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ