ปลายปีนี้ "มงคลเมเจอร์" พร้อมส่งความสุขให้ชาวไทยได้ฮีลใจไปกับ "Here ที่นี่ นิรันดร" ผลงานรียูเนียนในรอบ 30 ปีของทีมสร้าง "Forrest Gump" (1994) นำทีมโดยผู้กำกับรางวัลออสการ์ระดับตำนาน "โรเบิร์ต เซเม็กคิส" ที่เคยฝากผลงานอันโด่งดังไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น "Cast Away" (2000), "Contact" (1997) และ "Back to the Future 1-3" (1985-1990) พร้อมด้วยสองนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ "ทอม แฮงค์ส" และ "โรบิน ไรต์" ที่จะมากุมหัวใจผู้ชมชาวไทยอีกครั้ง
"Here ที่นี่ นิรันดร" กลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการจับตามองแห่งปีที่มาในคอนเซปต์ "หนึ่งมุมกล้องเฝ้ามองทุกช่วงชีวิต" ซึ่งการถ่ายทำสุดพิเศษนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์ แต่เหมือนว่ามันจะยังท้าทายขีดจำกัดและความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ระดับโลกของเซเม็กคิสไม่พอ เขาจึงทุ่มเทและมุ่งมั่นในการยกระดับงานสร้างเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถโดยนำ "เทคโนโลยีลดอายุ" (De-aging Technology) มาใช้งานเพื่อย้อนวัยให้ "ทอม แฮงค์ส" และ "โรบิน ไรต์" กลับไปเป็นหนุ่มสาววัยสดใสกันอีกครั้ง
เทคโนโลยีลดอายุที่ถูกใช้งานในเรื่องนี้เป็นเทคนิคพิเศษที่ทางทีมสร้างจะนำภาพจากทุกช่วงเวลาชีวิตของ "ทอม แฮงค์ส" และ "โรบิน ไรต์" ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันมาใช้งาน โดยการนำภาพถ่ายนับพันรูปมาทำ "เมกอัปดิจิทัล" ลดและเพิ่มอายุให้นักแสดงเพื่อให้ทุกช่วงอายุมีความสมจริงมากที่สุด ผู้กำกับเซเม็กคิสได้เผยว่า "การเมกอัปนักแสดงแบบเก่าทำให้นักแสดงเคลื่อนไหวได้ยาก และแสดงอารมณ์ได้ไม่เป็นธรรมชาติ" เขาจึงตัดสินใจใช้เมกอัปดิจิทัลแทนเมกอัปรูปแบบเดิม
ซึ่งหนังจะใช้เทคโนโลยีลดอายุนี้แบบเรียลไทม์ โดยทีมงานจะติดตั้งหน้าจอคู่ในการถ่ายทำเพื่อให้ทีมงานเห็นภาพของนักแสดงทั้งในรูปแบบปกติและเมกอัปดิจิทัล ผู้ควบคุม VFX จะนำฟุตเทจดิบขึ้นจอหนึ่ง ส่วนอีกจอหนึ่งจะแสดงใบหน้าของนักแสดงวัยหนุ่มสาว ทำให้เซเม็กคิสสามารถดูการแสดงของ "ทอม แฮงค์ส" และ "โรบิน ไรต์" ในช่วงวัยหนุ่มสาวขณะกำกับไปพร้อมกันได้
นอกจากนี้ "Here" ยังมีเทคนิคพิเศษอีกหลายอย่างที่ทางทีมสร้างได้นำมาปรับใช้ ทั้งการใช้จอ LED ในการสร้างฉากหลังหน้าต่าง หรือการใช้เลนส์ใหม่กับ Panavision เพื่อใช้โฟกัสจุดที่ใกล้ที่สุดไปจนถึงระยะอินฟินิตี้ไม่มีที่สิ้นสุดในการถ่ายทำด้วยมุมกล้องมุมเดียว
ไม่ควรพลาด! ผลงานสุดสร้างสรรค์ที่จะพลิกโฉมวงการครั้งยิ่งใหญ่กับภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจส่งท้ายปี "Here ที่นี่ นิรันดร" 5 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์