ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > ข่าวดาราไทย

"แม๊กกี้ อาภา" ศรัทธาแรงกล้า เชื่อคนดู "ดารัมซาล่าฯ" มีแรงบวกในทางที่ดี

15 พ.ค. 2560 10:39 น. | เปิดอ่าน 1523 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

ถือเป็นนักแสดงจิตอาสาที่มีแรงศรัทธาในเรื่อง "พระพุทธศาสนา" อย่างสูงสุด สำหรับนางเอกสาวนิสัยดี แม๊กกี้-อาภา ภาวิไล ที่ได้รับโอกาสดีมารับถ่ายทอดบท "เมธาวี" หญิงสาวที่มีความยึดมั่นถือมั่น และมีแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ๆ ในภาพยนตร์อิงธรรมะเรื่อง "ดารัมซาล่า ความรักแห่งศรัทธา" ภาพยนตร์โดย ครูมิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร ในนาม บริษัท ใบลานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยได้ฤกษ์ลงโรงฉายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ณ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์

สาวแม๊กกี้เริ่มเปิดฉากถึงการทำงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเจ้าตัวเล่าถึงคาแร็กเตอร์ "เมธาวี" ให้ฟังว่า "แม๊กกี้รับบท เมธาวี เป็นผู้หญิงที่มีความยึดมั่น ถือมั่น และมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก เราศึกษาและมีศรัทธาเกิดขึ้นกับตัวเรา จึงอยากโน้มน้าวให้คนรักหรือคนรอบข้างได้ศรัทธาเหมือนเรา ในการดำเนินเรื่องนี้อยู่ที่ประเทศอินเดียเกิดสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่ เมธาวี ค้นหา มันเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ซึ่งมันก็เป็นความคาดหวังของ เมธาวี ที่อยากที่จะให้คนรักและคนรอบข้างได้มีความศรัทธาในเรื่องพระพุทธศาสนาในการค้นหาหนทางแห่งการพ้นทุกข์ หรือค้นหาความสุขในชีวิตนั่นเอง นี่คือแก่นของเมธาวี คือสิ่งที่เมธาวีอยากจะบอกว่า ในโลกของเราไม่ใช่มีแค่นี้ มันมีสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่เราสามารถพิสูจน์มันได้ อย่างเรื่องของพระพุทธศาสนา แน่นอนว่าน้อยคนที่จะเข้าถึง เข้าใจ คำว่า "พระพุทธศาสนา" ได้อย่างโจ่งแจ้ง!!! หลายคนอาจจะนับถือศาสนาพุทธ โดยที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แต่สำหรับตัวแม๊กกี้จะได้รับการซึมซับเรื่องพุทธศาสนามาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า ถือว่าโชคดีที่เราได้เกิดมาในพระพุทธศาสนา ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีความเชื่อ และมีความศรัทธาในเรื่องพระพุทธศาสนาอยุ่แล้ว ซึ่งโจทย์ในเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะตัดสินใจที่เราจะเป็นตัวแทนหรือส่งสานในการสื่อสารผ่านภาพยนตร์อิงธรรมะเรื่อง ดารัมซาล่า ความหวังแห่งศรัทธา ค่ะ"

 

 

@บทนี้ค่อนข้างยาก สำหรับตัวแม๊กกี้หรือเปล่า
"บทบาทนี้ไม่ใช่ใครจะมาเล่นก็ได้ เป็นความรับผิดชอบต้องอาศัยคนที่มีการศึกษาเรื่องธรรมะและเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วย ซึ่งแม๊กกี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองจะสามารถบรรลุหรือเข้าใจในพุทธศาสนาได้อย่างถ่องแท้นะคะ แต่ด้วยความที่เรามีครอบครัวมีวิถีชีวิตที่มีพระพุทธศาสนาในหลักธรรมคำสอนตั้งแต่เล็กจนโต มันมีบางสิ่งบางอย่างเป็นเหตุผลที่ทีมงานหรือผู้กำกับฯ ต้องเลือกว่าบทนี้ต้องเป็น แม๊กกี้ มารับผิดชอบในหน้าที่ตรงนี้ค่ะ"

@ได้ใส่ชุดเป็นสาวอินเดียวด้วย
"แม๊กกี้ไม่เคยใส่ชุดแบบนี้เลยค่ะ เป็นการทำงานต่างประเทศที่ท้าทายมาก หลาย ๆ คนบอกอยากไป...อยากไป ภายใต้ความอยากไป ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคอนโทรลได้ เพราะว่าหนึ่ง...ไม่ใช่บ้านเรา สภาพภูมิอากาศก็ไม่ใช่บ้านเรา สิ่งที่เราต้องเตรียมคือ การเตรียมตัว เตรียมพร้อมร่างกายของเรา เราจะต้องพร้อม เราจะต้องแข็งแรง สามารถปรับตัวได้ตามสภาพอากาศ แล้วก็ตามสถานการณ์ด้วย ต้องมีเรื่องของไหวพริบ ทักษะพอสมควร เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง ต้องมีแผนการของตัวเองเก็บเอาไว้ เพื่อเราจะดึงแผนการอันไหนออกมาใช้ มันเป็นกลยุทธ์ของแต่ละคนในการทำงาน ไม่ใช่ว่าเป็นการทำงานที่เขามาจ้างเรา เราทำตามสัญญาแล้วจบไป คือทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน ทุกอย่างไม่มีคำว่า "บังเอิญ" ไม่มีคำว่า "ฟลุ๊ค" แม๊กกี้ว่ามันมีเหตุผลและมีความสำคัญที่เราได้รับหน้าที่ตรงนี้ที่เราเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สึกตรงนี้ออกมา ในเมื่อเรามีโอกาสตรงนี้ก็อยากที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ส่งให้คนดูเข้าใจ และมันจะได้เกิดประโยชน์อะไรหลาย ๆ  ด้วยค่ะ"

 

 

@แสดงว่าต้องทำการบ้านเยอะมาก
"ก็ทำการบ้านเยอะค่ะ สิ่งที่เราหาไม่ได้คือ ประสบการณ์จริงตรงนั้น เพราะประสบการณ์จริงตรงนั้นมันได้ให้อะไรหลาย ๆ อย่าง มันได้สอนและทำให้เราได้เข้าใจถึงว่าปัญหาคืออะไร อุปสรรคคืออะไร และวิธีการแก้ไขของมัน เราจะทำอย่างไรมันเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้เลย แล้วคุณจะไขว่คว้าที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะมันคือโอกาสที่จะเข้ามาหาเราเอง ซึ่งไม่ได้เข้ามาบ่อยหรือเข้ามากับทุกคน และไม่ได้เข้ามาได้ง่าย ๆ แม๊กกี้ถือว่าแม๊กกี้มีความโชคดีมากที่ได้รับผิดชอบงานตรงนี้ แล้วก็คิดว่าทุกคนฝากความหวังไว้กับตัวละครเมธาวีนี้ค่ะ และแม๊กกี้ทำทุกอย่างให้ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการเดินทางครั้งนี้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของทีมงานทุก ๆ คน มันไม่ใช่แค่ตัวเรา มันเป็นเรื่องราวของพระพุทธศาสนาเลย ซึ่งในเมื่อเรามีศรัทธาขนาดนี้เราก็อยากที่จะบอกกับทุกคนว่า สิ่งที่เรากำลังทำคืออะไรและมันดียังไง มันคือทางออกของคนเราทุกคน เพราะทุกคนต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้มา แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้มาง่าย ๆ มันต้องอาศัยความเชื่อความศรัทธา บุญ วาสนาที่ได้สั่งสมมาด้วย นี่ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นแนวทาง ให้กับคนได้ค้นพบทางออกของตัวเองค่ะ"

 

 

@ครั้งแรกกับการร่วมงาน ธัญญ์ ธนากร
"ก่อนหน้านี้เคยเจอกับพี่ธัญญ์บ้าง แต่ยังไม่เคยร่วมงานกันค่ะ พอทราบว่าจะได้มาร่วมงานบุญกันก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ธัญญ์เล่นละครบ่อยในช่วงนี้ ก็เลยคิดว่าแฟน ๆ และหลายคนคงอยากได้ดูผลงานของพี่ธัญญ์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แม๊กกี้ยังทราบว่าพี่ธัญญ์ไม่ใช่แค่นักแสดงในเรื่องนี้อย่างเดียว แต่พี่ธัญญ์ทำหลายหน้าที่คือโปรดิวเซอร์และผู้ช่วยกำกับฯ ก็ทำให้เราทราบว่าพี่ธัญญ์ก็มีอีกมุมหนึ่งในการทำงานเหมือนกัน ชอบพี่ธัญญ์นะคะ ชอบในการทำงานในมุมมองของเค้าและความเขินอายที่พี่ธัญญ์มี น่ารักดีค่ะ เวลาจะต้องเข้าฉากด้วยกัน คนที่ตื่นเต้นควรจะเป็นแม๊กกี้ แต่กลับเป็นพี่ธัญญ์เอง ฉากกุ๊กกิ๊กเลิฟซีนกลายเป็นว่าแม๊กกี้เล่นได้พริ้ว เพราะความที่ว่าเราต้องเตรียมพร้อมจะมาเขินอายไม่ได้ แล้วยิ่งเป็นการทำงานต่างประเทศซึ่งมีระยะเวลากำหนด แม๊กกี้ก็เลยบอกพี่ธัญญ์ว่า ขอโทษนะคะพี่ พี่ต้องใช้จินตนาการเยอะเยอะหน่อย คิดว่าหนสวยหนูเป็นพี่ยุ้ย (จีระนันท์) ก็แล้วกัน (หัวเราะร่วน) ไม่เคยคิดมาก่อนว่าพี่ธัญญ์จะเป็นคนเก่ง นอกเหนือจากเบื้องหน้าพี่เค้าทำเบื้องหลังได้ดีเช่นกัน เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่มีจิตใจดี มีทัศนคติดีมีมุมมองที่ดีมีความสามารถและดีใจที่ได้มีโอกาสได้มาร่วมงานดี ๆ ครั้งนี้ ในระหว่างการเดินทางของเรามีช่วงจริงจังกับงานและก็จะมีช่วงพักผ่อนบ้าง พี่ธัญญ์เป็นคนตลกมีมุขตลกตลอดเวลา เป็นคนเล่าเรื่องได้สนุกมาก ชอบแกล้งเพื่อนเอาเรื่องของเพื่อนมาเล่าให้ฟัง แต่เป็นสิ่งที่ดี ทำให้สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนได้ดี เป็นการร่วมงานที่ดีที่สุดที่มีความสุขที่สุดประทับใจที่สุดค่ะ"

 

 

@และการทำงานกับ ครูมิ้งค์ เพ็ญจันทร์ ผู้กำกับฯ ล่ะ
"ต้องขอบคุณพี่มิ้งค์จริง ๆ ค่ะ พี่เค้าติดต่อมา ที่ได้เลือกแม๊กกี้เป็นส่วนหนึ่งในงานชิ้นนี้ พี่มิ้งค์มองเห็นความที่มีจริยธรรม มีธรรมะในใจ และเหมาะสมกับบทนี้ที่สุด การทำงานชิ้นนี้ไม่ใช่ว่าใครจะมาทำก็ได้ แม็กกี้เชื่อว่าทุกอย่างมีเหตุและผลไม่มีคำว่าบังเอิญ เป็นโอกาสที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า เมื่อแม๊กกี้เชื่อว่าผู้กำกับฯ ทุกคนมีความตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด และเขาก็ต้องเลือกผู้ร่วมงานที่ดีที่สุดเช่นกัน ที่มีใจเป็นกุศล เรื่องนี้ทุกคนทำงานด้วยใจจริง ๆ เพราะว่าตลอดการเดินทางค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ได้มีงบประมาณรวมถึงค่าตัวของแม็กกี้และนักแสดงจิตอาสาหลาย ๆ ท่านด้วย เราไม่เรียกร้องใดใด เพราะการได้มาเป็นส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญที่สุดมันคือสุดยอดแล้ว เข้าใจเจตนาของผู้กำกับฯนะคะ เลยยินดีมาก ๆ ที่จะร่วมทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ การได้ทำหน้าที่ตรงนี้ ได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของชาวพุทธแท้ค่ะ และก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่มิ้งค์ในงานต่อ ๆ มาอีก ขอบคุณที่ไว้ใจ เชื่อใจกันค่ะ"

@คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้
"สิ่งที่แม๊กกี้ได้ทำ เราได้บอกความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างผ่านเป็นภาพยนตร์ไปหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคืออยากให้คนดูเข้าใจ ซึ่งคนดูสมัยนี้...ฉลาดนะ เขาเข้าใจด้วยการมองภาพได้ เข้าใจด้วยการรับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่เราได้ส่งไป อาจจะไม่ได้พูดเป็นคำพูด คนเราจะมีสัญชาตญาณ มีเซ้นส์ที่จะสามารถเข้าใจได้ว่าอะไรคืออะไร คนเราสามารถแยกออกได้ สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด สามารถแยกได้จากกระบวนการทางความคิดหรือจิตใจบางอย่าง เรื่องนี้เราทำจิตด้วยบริสุทธิ์ และเราส่งไป เราเชื่อว่าคนดูที่ได้ดู จิตของเขาจะสามารถรับรู้ถึงตรงนี้ได้ และมันเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน อย่างน้อยในเรื่องของมุมมองว่าเขาจะต้องมีแรงบวกมากขึ้น เราไม่ต้องทำอะไรเลยถ้าเขามีแรงบวก มีแรงศรัทธา เขาก็จะบอกต่อคนอื่น ๆ ไปอีกเรื่อย ๆ อาจจะมีคนดูแค่คนเดียว และเขาเกิดคำว่า ศรัทธา เขาไปบอกต่ออีกหลาย ๆ คน ให้มาดูหนังเรื่องนี้ เขาก็หาทางออกเองได้ค่ะ"

 

"ดารัมซาล่า ความรักแห่งศรัทธา"
เข้าฉายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ณ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์...!!!
"หัวใจแห่งความศรัทธา นำความหวังสู่การเปลี่ยนแปลง"

 

: แม็กกี้ อาภา, ดารัมซาล่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สุดอลังการ! เปิดตัว 6 ใบปิดคาแรคเตอร์เท่ล้ำ ขุนพันธ์ 2
  • "ฉลาดเกมส์โกง" คว้าภาพยนตร์ยอดนิยม จากงานประกาศผลรางวัลมายามหาชน 2017
  • "ดารัมซาล่า ความหวังแห่งศรัทธา" แรงปรารถนาของผู้กำกับฯหญิง "เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร"
  • ธัญญ์-แม๊กกี้ นำทีมนักแสดง-ผู้กำกับฯ "ดารัมซาล่า" เข้ารับรางวัล ทูตวิสาขบูชา 2560
  • ชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน "แม็กกี้ อาภา" พิสูจน์ฝีมือสุดยอดนักแสดง ใน "แม่เบี้ย"
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :