ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

ชี้จุดไข่อีสเตอร์ “IT Chapter Two - อิท โผล่จากนรก 2” งานนี้แฟนตัวจริงของสตีเฟ่น คิงห้ามพลาด!

9 ก.ย. 2562 18:11 น. | เปิดอ่าน 1668 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

เข้าฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาคต่อที่ทุกคนรอคอยอย่าง “IT Chapter Two - อิท มันโผล่จากนรก 2” นำทีมโดยแก๊งลูสเซอร์สคลับ และเจ้าปีศาจตัวตลกเพนนีไวส์ ที่กลับมาครั้งนี้ นอกจากจะขนความโหด มัน ฮามาฝากแล้ว บอกเลยยังมีไข่อีสเตอร์แอบซ่อนอยู่ไว้เพียบ! ใครที่ไม่ทันสังเกตหรือพลาดอะไรไป เราก็รวบรวมมาให้อ่านกันแล้วจ้า

**คำเตือน : เนื้อหาต่อไปจะมีการสปอยล์ภาพยนตร์**

 

- ในฉากเปิด ที่เอเดรียนชายรักชายกับแฟนหนุ่มของเขาถูกทำร้าย เป็นฉากที่มีในหนังสือต้นฉบับ ซึ่งสตีเฟ่น คิงเขียนจากเหตุการณ์จริงของคดีฆาตกรรม ชาร์ลี ฮาวเวิร์ด ชายหนุ่มรักร่วมเพศที่ถูกทำร้ายและโยนทิ้งลงแม่น้ำจากสะพานในเมืองบังกอร์ รัฐเมน เมื่อปี 1984

 

- ร้านรวงต่าง ๆ ในเมืองเดอร์รี่ บางร้านก็เป็นร้านจริง ๆ ที่ตั้งอยู่ในเมืองพอร์ทโฮป รัฐออนแทรีโอ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และมีร้านเบเกอรี่ชื่อว่า Queenies Bake Shop ซึ่งควีนนี่นั้นเป็นชื่อน้องหมาตัวโปรดในวัยเด็กของสตีเฟ่น คิงด้วย

 

- สำหรับแฟนหนังสือคงเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของ คุณปู่เต่ามาทูริน มาฟาดฟันกับเพนนีไวส์อย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ใน IT Chapter Two นี้ไม่มีคุณปู่เต่ามาปรากฏอยู่ โดยผกก.แอนดี้เล่าว่าตอนแรกเขาตั้งใจจะใส่ลงไปในฉากย้อนกลับไปในอดีตตอนลูสเซอร์สคลับโดดน้ำ แล้วชี้ให้ดูว่ามีเต่าว่ายน้ำเล่นอยู่ แล้วพวกเขาก็หายไปในอีกมิติหนึ่ง แต่สุดท้ายฉากนั้นก็โดนตัดออกไป

สำหรับใครที่ไม่รู้ในโลกนิยายของสตีเฟ่น คิงนั้น คุณปู่เต่ามาทูริน คือเต่ายักษ์โบราณที่อาศัยอยู่ในมิติแมโครเวิร์ส เช่นเดียวกับเพนนีไวส์ โดยในหนังสือ IT คุณปู่เป็นคนออกมาช่วยลูสเซอร์คลับรับมือกับเพนนีไวส์ และเป็นคนคอยให้คำแนะนำต่าง ๆ ขณะลูสเซอร์ทำพิธีกรรมชัดครั้งแรกตอนเด็กอีกด้วย ส่วนในนิยายตอนโตนั้นเพนนีไวส์บอกว่าคุณปู่เต่าตายไปแล้ว แก๊งลูสเซอร์สจึงต้องต่อสู้กับปีศาจร้ายด้วยตัวเอง

 

- ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังมีเต่าปรากฏเรื่อย ๆ ในหนัง ตั้งแต่รูปวาดน้องเต่าบนโต๊ะในห้องเรียนของเบน รูปปั้นเต่าในสวนหน้าบ้านของเบน และรูปสลักเต่าบนประตูที่บ้านลับของเพนนีไวส์ 

 

- สเกตบอร์ดของหนุ่มน้อยดีน ที่บิลล์ไปเจอแถว ๆ บ้านเก่าของเขา หากสังเกตดี ๆ สเกตบอร์ดนั้นมีลวดลายเดียวกับพรมของ Overlook Hotel โรงแรมสยองจากหนังเรื่อง The Shining (1980) ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างจากนิยายของสตีเฟ่น คิงเช่นกัน

 

 

- ตอนกลับไปยังบ้านของเพนนีไวส์ ริชชี่ เอ็ดดี้ และบิลล์ เจอกับหัวแสตนลีย์ที่มีขาแมงมุมออกมาเดินเพ่นพ่าน ชวนให้นึกถึงฉากหนึ่งในภาพยนตร์ The Thing (1982) ที่มีปีศาจหัวคนขาแมงมุมออกมาเดินเช่นกัน แถมริชชี่ยังอุทานประโยคเดียวกับ พาล์มเมอร์ ตัวละครในเรื่องนั้นด้วยว่า “You’ve gotta f**king kidding” 

 

- ในร้านเกมที่ริชชี่ (วัยเด็ก) เล่นเกมตู้กด ข้างหลังจะมีโปสเตอร์ปริศนาอยู่ ซึ่งโปสเตอร์ถูกฉีกทิ้งให้เหลือแต่คำว่า IT และยังมีโปสเตอร์หนัง You’ve Got Mail ด้วย

 

- ส่วนนักแสดงนำ You've Got Mail อย่าง เม็ก ไรอัน เองก็ถูกพูดถึงด้วย ในฉากตอนชายหนุ่มรักชายเอเดรียน โดนรุมทำร้าย เขาเลยตอกกลับอันธพาลไปว่า "เม็ก ไรอัน ฝากบอกมาว่า เธออยากได้วิกผมเธอคืน"

 

- “ต้องใส่พาสเวิร์ดมั้ย?” คำถามจากเบนถึงเบเวอร์ลี่ ตอนที่กลับมารียูเนี่ยนกันที่ร้านอาหารจีนในตอนแรก พาย้อนกลับไปนึกถึง IT ภาคก่อน ตอนที่ เบนกับเบเวอร์ลี่เจอกันครั้งแรก เบนปั่นจักรยานมาขวางเบเวอร์ลี่ตรงบันไดโรงเรียน จนเบเวอร์ลี่ต้องถามว่า “มันมีพาสเวิร์ดด้วยเหรอ (ถึงจะผ่านไปได้)” แต่เบนก็แค่ดักทางไว้เพื่อขอให้เบเวอร์ลี่เขียนเฟรนด์ชิปให้เท่านั้นเอง

 

 

- การ์ตูน "Tom and Jerry: The Truce Hurts" ที่ฉายอยู่ในห้องรักษาการเมืองเดอร์รี่ เป็นฉากที่สเตกลอยไปลงในท่อน้ำ เหมือนกับตอนที่เรือของจอร์จี้ลอยไหลไปเป็นกับดักให้กับเพนนีไวสืในภาคแรก

 

- “ปี๊บ ปี๊บ ริชชี่ (Beep beep, Richie)” เป็นประโยคติิดปากที่ตัวละครชอบพูดกันในนิยาย และมินิซีรีส์ IT เมื่อปี 1990 ส่วนในหนังนั้นหยิบประโยคนี้มาให้ เบเวอร์ลี่ พูดตอนที่อยู่ในบ้านพักกับลูสเซอร์สคลับ เพื่อบอกให้ริชชี่หยุดพูด

 

- “Here’s Johny” จอห์นนี่มาแล้วจ้าา ประโยคเด็ดจากหนังดังของลุงคิง The Shining เองก็อยู่ในเรื่องนี้ ตอนที่เบเวอร์ลี่หลอนเข้าไปดูในห้องน้ำ แล้วมีคนกระแทกประตูจะเข้ามาทำร้าย ทั้งพ่อของเธอและเฮนรี่ บาวเออร์ส ซึ่งเฮนรี่ เป็นคนที่พูดประโยคดังนี้เอง

 

- ในฉากเดียวกันผนังห้องน้ำที่เบเวอร์ลี่อยู่ มีประโยคเขียนว่า "Big is what IT seems (ความยิ่งใหญ่คือสิ่งที่ "มัน" เห็น)" นับเป็นคำใบ้ที่ช่วยให้เบเวอร์ลี่บอกกับแก๊งลูสเซอร์สว่า ถ้าเพนนีไวส์เชื่อว่าตัวเองตัวเล็ก มันจะถูกกำจัดในตอนท้ายนั่นเอง

 

 

- ชื่อของคุณป้าสุดสยอง มิสซิสเคิร์ช สตีเฟ่น คิงตั้งมาจากชื่อ ไอร์วิน เคิร์ชเนอร์ ผู้กำกับ "The Empire Strikes Back (1980)" หนังดังในอดีตที่ถ่ายทำในสตูเดียวกัน และเวลาเดียวกันกับ "The Shining" ของสตีเฟ่น คิง เรียกว่าซี้กันขนาดสตีเฟ่น คิงเคยไปเยี่ยมกองถ่ายเรื่องนั้นด้วย 

 

- คุณป้าโจแอน เกร็กสัน ผู้รับบทมิสซิสเคิร์ช เคยร่วมงานกับสตีเฟ่น คิงมาแล้ว ใน "Storm of the Century" มินิซีรีส์ออนแอร์เมื่อปี 1999

 

- ตอนที่ลูสเซอร์สคลับกลับไปยังฐานลับคลับเฮาส์ของพวกเขา ที่นั่นมีข้าวของในยุค 80 มากมาย ตั้งแต่ เพลงประกอบสุดฮิต "World Up" จาก Cameo, โปสเตอร์หนัง "The Lost Boys" และนิตยสาร Rolling Stones ปกไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์

 

- ฉากถ่ายทำในสตูดิโอ Warner Bros. Pictures ผู้กำกับที่ทำหนังให้กับบิลล์ สแดงโดยคนเบื้องหลังตัวจริงคือ ปีเตอร์ บ็อกดาโนวิช ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และนักเขียนวัยเก๋าแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งมีผลงานเด่นอย่าง Targets (1968), The Last Picture Show (1971) และ She's Funny That Way (2014)

 

- สตูดิโอของ Warner Bros. Pictures ที่เราเห็นนั้นคือ สตูดิโอ Warner Bros. Stage 14 ที่เคยใช้ถ่ายทำ "A Streetcar Named Desire" และ "A Star Is Born"

 

 

- ในฉากที่เบนประชุมอยู่กับบริษัทเรื่องออกแบบตึกสูง หนึ่งในคนที่อยู่ในห้องประชุมนั้นคือ แบรนดอน เครน นักแสดงที่เล่นเป็น เบน ตอนเด็ก ในมินิซีรีส์ IT เมื่อปี 1990 

 

- ฉากที่เบนตัวเด็กหนีเพนนีไวส์ไปซ่อนตัวอยู่ในตู้ล็อกเกอร์ โปสเตอร์ด้านหลังเขาคือ แดนนี่ จากวง New Kids on the Block วงดังที่เพลงของพวกเขาเคยเปิดประกอบเรื่องนี้ด้วย

 

- ลุงสตีเฟ่น คิง ผู้เขียนนิยาย IT ต้นฉบับเองก็มาโผล่แจมด้วย ในบทบาทของเจ้าของร้านขายของเก่า ที่บิลล์เจอ เจ้าจักรยานซิลเวอร์คู่ใจของตัวเอง แถมยังใส่เสื้อยืดกรีนลายนีล ยังอีกด้วย

 

- ในร้านขายของเก่ามีป้ายทะเบียนรถ CQB 241 วางอยู่ ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนรถของ คริสตีน รถผีสิงจากหนังเรื่อง Christine (1958) หนังสยองที่สร้างจากนิยายของสตีเฟ่น คิงนั่นเอง

 

- “ตอนจบห่วยแตก” คำวิจารณ์ที่บิลล์โดนตอกหน้าตลอดทั้งเรื่อง จริง ๆ แล้วเป็นการแซะตัวเองของลุงสตีเฟ่น คิง ที่ตลอดชีวิตการเขียนหนังสือของเขา มักโดนวิจารณ์ว่าตอนจบห่วยตลอด แต่สุดท้ายก็ขายดิบขายดีอยู่ดี

 

 

- ผู้กำกับแอนดี้ มุชิเอตติเองก็แอบมาโผล่แว้บ ๆ ด้วยเช่นกัน ในฉากที่เอ็ดดี้กลับไปร้าขายยาเพื่อระลึกความหลัง ซึ่งแอนดี้นั้นแกล้งยืนเป็นลูกค้าอยู่ข้างหลังเอ็ดดี้นั่นเอง

 

- ภรรยาร่างใหญ่ของเอ็ดดี้ตอนโต แสดงโดยไมร่า แคพส์แบร็ก นักแสดงสาวคนเดียวกับคนที่แสดงเป็นแม่ของเอ็ดดี้ในวัยเด็ก (เหมือนเอ็ดดี้จะหนีผู้หญิงอย่างแม่เขาไม่พ้นนะ..)

 

- แฟนสาวของบิลล์ที่หน้าคล้ายกับเบเวอร์ลี่นั้น แสดงโดยเพื่อนสาวคนสนิทของเจสสิกา แชสเทน นั่นก็คือ เจส ไวซ์เลอร์

 

- ในตอนจบที่บิลล์เขียนหนังสือ พารากราฟแรกนั้นเป็นประโยคจากความคิดของ เอ็ดดี้ ที่พูดถึงเพื่อน ๆ ของเขาเอาไว้ "บางที.. มันอาจจะไม่มีคนอย่างเพื่อนดีหรือเพื่อนเลวก็ได้ เพราะความจริงมันอาจมีแค่เพื่อนธรรมดา ๆ ที่คอยอยู่เคียงข้างเวลาเราเจ็บ และไม่ทำให้เราเหงาเวลาอยู่คนเดียว.."

 

- ห้องในฉากจบของบิลล์นั้น ดูเหมือนเป็นห้องเดียวกับตอนจบของหนังเรื่อง "Stand By Me (1986)" หนังคลาสสิกที่สร้างจากหนังสือของสตีเฟ่นคิง ในฉากที่ริชาร์ด เดรย์ฟัส เขียนบทภาพยนตร์ตอนจบของเขานั่นเอง

 

 

- หนังสือที่ไมค์วางทิ้งไว้ในตอนจบคือ A History of Old Derry เขียนโดยแบรนสัน บัดดิงเกอร์ เป็นหนังสือที่เบนอ่านในภาคแรก ซึ่งในโลกของนิยายสตีเฟ่น คิงนั้น แบรนสัน บัดดิงเกอร์เป็นนักประวัติศาสตร์ที่อุทิศชีวิตตอนโตของตัวเอง ให้กับการจดเรื่องราวสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะโศกนาฏกรรมใหญ่ในเมืองเดอร์รี่ รัฐเมนอันเป็นบ้านเกิดของเขา และเขายังเป็นตัวละครประกอบในนิยายของสตีเฟ่น คิงหลาย ๆ เรื่องอีกด้วย

 

- รู้หรือไม่… ทำไมต้อง 27 ปี? นั่นก็เพราะตัวเลข 27 สำคัญกับหนังเรื่องนี้มาก อย่าง IT ภาคแรกก็ปล่อยหนังจากมินิซีรีส์ 1990 ถัดมา 27 ปี และเข้าฉายในวันที่ 8 กันยายน 2017 (ตามเวลาสหรัฐฯ) หากแยกเลขวัน-เดือน-ปี มาบวกกันจะได้ 8+9+2+0+1+7 = 27 ส่วนภาคสองนั้นฉายวันที่ 6 กันยายน 2019 (ตามเวลาสหรัฐฯ) หากแยกเลขออกมาบวกกันจะได้ 6+9+2+0+1+9 = 27 เช่นกัน โอ้โห.. ขนลุกเลยค่ะคุณเจน

 

และนั่นก็เป็นจุดอีสเตอร์เอ้กที่เรานำมาฝากกัน ใครไปดูมาแล้วสังเกตเห็นจุดไหนอีก มาคอมเมนต์พูดคุยเพิ่มเติมกับหนังดีได้นะ ^^

 

ที่มา : gamespot.com, looper.com, digitalspy.cominsider.com

 

: เกร็ดหนังดี, IT Chapter 2, IT Chapter Two, อิท โผล่จากนรก 2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกร็ดหนังดี ล้วงลึกก่อนดูภาพยนตร์ หม่อม
  • เกร็ดหนังน่ารู้ ก่อนดู Black Adam 20 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!
  • เกร็ดภาพยนตร์ Vesper ฝ่าโลกเหนือโลก 6 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์
  • 6 เกร็ดหนังทวนความจำก่อนดู Fantastic Beasts: The Secrets Of The Dumbledore
  • เกร็ดเบื้องหลังน่าสนใจ Justice League จากปากของผู้กำกับฯ แซ็ค สไนเดอร์
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :
     
     
     
     

    ความคิดเห็นที่ 25  จากคุณ lkjhViag     15 มี.ค. 2568 21:14 น.

    [url=https://rumol.ru/wp-includes/wli/smotret_serialu_onlayn___udobstvo_i_vubor_dlya_kazghdogo.html]https://rumol.ru/wp-includes/wli/smotret_serialu_onlayn___udobstvo_i_vubor_dlya_kazghdogo.html[/url] 3 д фильмы смотреть онлайн бесплатно


    ความคิดเห็นที่ 24  จากคุณ lkjhViag     15 มี.ค. 2568 18:16 น.

    [url=http://dentaone.ru/wp-content/pages/uzghasu_na_kinogo___parad_igolok_dlya_nervov_i_fantaziy.html]http://dentaone.ru/wp-content/pages/uzghasu_na_kinogo___parad_igolok_dlya_nervov_i_fantaziy.html[/url] венский вальс штрауса слушать онлайн бесплатно


    ความคิดเห็นที่ 23  จากคุณ lkjhViag     15 มี.ค. 2568 14:51 น.

    [url=https://li-terra.ru/art/filmu_143.html]https://li-terra.ru/art/filmu_143.html[/url] новая больница екатеринбург официальный сайт платные услуги цены


    ความคิดเห็นที่ 22  จากคุณ Jeffrybum     15 มี.ค. 2568 12:14 น.

    fashion plm Best Practices for Implementing PLM Software in Fashion Brands The fashion industry is a dynamic and competitive landscape, where brands must constantly innovate to stay ahead. To meet consumer demands, reduce costs, and streamline operations, many fashion companies are turning to Product Lifecycle Management (PLM) software. However, successful implementation of PLM requires more than just purchasing the right tool—it demands strategic planning, team involvement, and a clear understanding of organizational goals. Why PLM Matters in Fashion Fashion brands operate in a fast-paced environment, where trends change rapidly, and supply chains span the globe. From design to production, every step in the product lifecycle must be optimized for efficiency and accuracy. PLM software provides a centralized platform that integrates data, improves collaboration, and enhances decision-making. By adopting PLM, brands can: Streamline product development processes Improve communication between teams and partners Reduce time-to-market Enhance supply chain visibility Minimize errors and waste However, realizing these benefits depends on how effectively the software is implemented. Key Steps for Successful PLM Implementation Define Clear Objectives Before implementing PLM, brands must identify their specific needs and goals. Are you looking to improve design efficiency? Reduce production costs? Or enhance supplier collaboration? Clearly defined objectives will guide the implementation process and ensure alignment with business priorities. Engage Stakeholders Early PLM impacts multiple departments, including design, production, procurement, and marketing. Involving key stakeholders from the outset ensures buy-in and fosters collaboration. It also helps tailor the system to meet diverse requirements and workflows. Choose the Right Solution Not all PLM systems are created equal. Some are better suited for large enterprises, while others cater to smaller brands. Evaluate vendors based on features, scalability, ease of use, and integration capabilities. Cloud-based PLM solutions, for instance, offer flexibility and real-time access, making them ideal for global teams. Focus on Data Migration and Standardization Transitioning to PLM often involves migrating existing data into the new system. This process can be complex, so it’s essential to clean and standardize data beforehand. Establishing consistent naming conventions, measurement units, and file formats will prevent confusion and ensure smooth operations. Provide Comprehensive Training Even the most advanced PLM system won’t deliver results if users don’t know how to leverage its features. Provide hands-on training sessions and create user-friendly guides to help employees adapt quickly. Encourage feedback during the initial rollout to address challenges and refine workflows. Monitor Progress and Iterate Implementation doesn’t end after go-live. Regularly monitor performance metrics, gather user feedback, and make necessary adjustments. Continuous improvement ensures the system evolves alongside your brand’s needs. Real-World Impact of PLM in Fashion Consider the success stories of brands that have embraced PLM. For example, one leading apparel company reduced its product development cycle by 30% after implementing a cloud-based PLM solution. Another brand improved supplier collaboration, resulting in faster production timelines and reduced material waste. These examples demonstrate the transformative power of PLM when implemented strategically. Conclusion Implementing PLM software is a significant investment, but the potential rewards far outweigh the challenges. By following best practices—such as setting clear goals, engaging stakeholders, and providing robust training—fashion brands can unlock the full potential of PLM. As the industry continues to evolve, those who embrace technology like PLM will not only survive but thrive in an increasingly competitive market. For fashion brands ready to take the next step, PLM isn’t just a tool—it’s a pathway to innovation, efficiency, and long-term success. By Tatiana Kochergina | Published March 12, 2025 This article provides actionable insights for fashion brands considering PLM software adoption. By showcasing real-world applications and emphasizing strategic planning, it positions PLM as a critical enabler of growth and innovation in the fashion industry.


    ความคิดเห็นที่ 21  จากคุณ lkjhViag     15 มี.ค. 2568 05:57 น.

    [url=https://taktikiipraktiki.ru/news/serialu_pro_derevnu__prostota__iskrennost_i_osobaya_atmosfera.html]https://taktikiipraktiki.ru/news/serialu_pro_derevnu__prostota__iskrennost_i_osobaya_atmosfera.html[/url] сайт кинопоиск официальный сайт бесплатно


    << 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12  13  14 15 16 17 >>